บัวหลวง Money Tips
โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
CEO กองทุนบัวหลวง
ทีนี้มาดู Theme การลงทุนของเราในปี 2559 กัน
Theme การลงทุนสำหรับปี 2559 ของกองทุนบัวหลวงคือ “สูงวัย สุขสำราญ บริการ ปัจจัยสี่” ซึ่งเรายังคงเน้นโครงสร้างประชากรที่กำลังเปลี่ยนแปลง และจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการพัฒนาใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา กับจะนำมาซึ่งโอกาสการลงทุนในหลายๆ ด้าน ดังนี้
การขยายตัวของชนชั้นกลาง
การก้าวเข้าสู่สังคมเมือง (Urbanization) ของประเทศตลาดเกิดใหม่ทำให้รายได้ของประชนชนสูงขึ้น มีการคาดการณ์กันว่าประชากรชนชั้นกลางในเอเชียจะเพิ่มจำนวนจากราว 1,200 ล้านคนในขณะนี้ เป็นกว่า 3,000 ล้านคนในปี 2030 และการจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการที่เป็นปัจจัย 4 ของคนกลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีคุณภาพชีวิต มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น โดยประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียนกับอินเดียมีประชากรกลุ่มวัยทำงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจซื้อในอนาคต จึงจะเป็นแรงผลักดันและอุดหนุนการบริโภคในระยะยาว เช่น การเลือกสรรสินค้าและบริการเพื่อทำให้ตนเองและสิ่งรอบตัวดูดี มีสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น
สังคมผู้สูงวัย
นอกจากการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มคนวัยทำงานแล้ว ประชากรอีกกลุ่มที่จะเป็นกำลังหลักของการอุปโภคบริโภค ได้แก่ กลุ่มผู้สูงวัย
ผู้สูงวัยในปัจจุบันคือคนกลุ่ม Baby Boomer ซึ่งเป็นผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกากลุ่ม Baby Boomer มีสัดส่วนกว่า 40% ของประชากร และมีศักยภาพในการใช้จ่ายถึง 70% ของกำลังซื้อในประเทศ ส่วนในประเทศไทย สิงคโปร์ หรือจีน ต่างมีแนวโน้มในลักษณะเดียวกัน
คนกลุ่ม Baby Boomer เป็นผู้มีทัศนคติที่ดีต่อการซื้อจับจ่ายใช้สอยสินค้าเพื่อตัวเองและบุคคลใกล้ชิด เพื่อจะใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีความสุข
กิจกรรมที่ผู้สูงวัยนิยมมากเป็นพิเศษคือการเดินทางท่องเที่ยวตามใจปรารถนาเพื่อแสวงหาชีวิตใหม่ ประสบการณ์ใหม่ การไปพักผ่อนหย่อนใจกับลูกหลานและเพื่อนฝูง การรับประทานอาหารอร่อย เพื่อให้รางวัลแก่ชีวิตหลังจากตรากตรำทำงานหนักมาตลอดกว่าค่อนชีวิต
การที่จะมีกำลังซื้อได้นั้น หัวใจสำคัญคือต้องมีเงินออมที่เพียงพอ ต้องมีความมั่นคงทางการเงินถึงจะมีชีวิตในยามเกษียณที่สุขสบาย ดังนั้น ผลิตภัณฑ์การวางแผนการออม การลงทุนผ่านกองทุนรวม การประกันสุขภาพและประกันชีวิต จะตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี
การให้รางวัลแก่ตัวเองคือการหยิบยื่นความสุขผ่านการสัมผัสต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการ “อยู่ดี กินดี ดูดี และสุขภาพดี” ด้วยกันทั้งนั้น
อยู่ดี
เมื่อมีกำลังซื้อมากขึ้น และมีสินค้าที่หลากหลายให้เลือกซื้อมากขึ้น การตกแต่งบ้านหรือการปรับปรุงบ้านก็จะมีสูงขึ้น เช่น ชุดของใช้ในครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่ม Baby Boomer ที่กำลังอยู่ในช่วงระหว่างวัยเกษียณ จะมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มที่จะลงทุนตกแต่งและปรับปรุงบ้าน
กินดี
ความสามารถในการจับจ่ายที่มากขึ้น ทำผู้บริโภคสามารถตอบสนองความต้องการลิ้มรสชาติอาหารอันหลากหลายมากได้ขึ้น ประกอบกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะคนเมืองมีความต้องการบริการทางด้านอาหารมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมอาหารได้รับประโยชน์จากหลายๆ ส่วน อาทิเช่น ชุมชนเมืองมีอัตราการทำอาหารเองน้อยลง จากการที่ขนาดครอบครัวลดลง ทำให้มีการออกไปใช้บริการร้านอาหารมากขึ้น อีกทั้งการที่คนเมืองต้องการความสะดวกสบายมากขึ้นทำให้อาหารประเภท Ready Meal จะเป็นที่นิยมมากขึ้น นอกจากนี้ การท่องเที่ยวที่มากขึ้นจะทำให้ร้านอาหารได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น
ดูดี
ใครๆ ก็ต้องการให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ สังเกตได้จากรูปใน Social Media ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนให้ความสำคัญต่อการดูดี ดังนั้นจึงจะมีความต้องการในสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูดี เช่น การใช้สินค้าที่เสริมบุคลิก เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และสินค้า Anti-aging ต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มฐานลูกค้าที่มีอายุมากขึ้น พร้อมจะลงทุนให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ และมีกำลังซื้อสูง
สุขภาพดี
เทรนด์การดูแลสุขภาพยังคงมาแรง และไม่ใช่แค่การรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพ ยาบํารุง รวมทั้งบริการอื่นๆ เช่น Fitness ศัลยกรรมความงาม การชะลออายุ การดูแลสุขภาพฟัน ฯลฯ เนื่องจากอำนาจการจับจ่ายใช้สอยที่สูงขึ้น และประชากรสูงอายุมีมากขึ้น ทำให้แนวโน้มที่จะต้องดูแลสุขภาพก็มีมากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจสินค้าและบริการสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น
ทีนี้คงจะมีคนสงสัยว่าเมื่อเปลี่ยน Theme การลงทุนทุกปีแล้ว แปลว่าขายหุ้นที่เคยลงทุนออกไปหมดเลยหรือ แล้วโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลกำลังจะเริ่มลงทุนล่ะ ไม่มีหรือ
ขอตอบว่า ในเรื่องของการคัดเลือกหุ้นหรือ Stock Selection ในปี 2559 นั้น เราจะเน้น Theme การลงทุนปี 2559 ที่เป็นการต่อยอด Theme ของปีก่อนๆ ที่ผ่านมา คือเราก็ยังคงลงทุนต่อเนื่องใน Theme เดิมที่ผ่านมาด้วย ไม่ได้ขายทิ้งหรือ Liquidate ออกไปทั้งหมด เช่น กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานก็ยังอยู่ เพราะยังไม่ได้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม แต่เราได้ลงทุนไปก่อนหน้าแล้ว ไม่ต้องรอจนราคาขึ้น และเมื่อโครงสร้างพื้นฐานเกิดขึ้นจริง ผลของมันก็ไม่ใช่เพียงปีหรือสองปี แต่จะต่อเนื่องไปอีกนาน
เราจึงยังคงให้น้ำหนักการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในพอร์ตของเราอย่างต่อเนื่อง แต่ต่อยอดเพื่อผลในอีก 2-3 ปีขึ้นไปในอนาคต เราจึงให้น้ำหนักการลงทุนไปทางด้านภาคบริการที่เกี่ยวกับปัจจัย 4 เป็นพิเศษสำหรับปี 2559