TREIT ระดมทุน 3,200 ล้านบาท เตรียมลงทุน “คลังสินค้า และโรงงาน” กลุ่มไทคอนอีก 53 ยูนิต รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 155,182 ตร.ม.
นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ ผู้จัดการทั่วไป และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ TMAN ในฐานะผู้จัดการทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้อนุมัติแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนของ TREIT เพื่อลงทุนทรัพย์สินในคลังสินค้าให้เช่าของ TPARK และโรงงานให้เช่าของ TICON โดยมีมูลค่าการระดมทุนรวมทั้งสิ้น 3,204.29 ล้านบาท
โดยแผนการระดมทุนจะมาจากการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจำนวนประมาณ 224.30 ล้านหน่วย แบ่งเป็นเสนอขายให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหน่วยทรัสต์ (Right Offering) จำนวน 140.95 ล้านหน่วยทรัสต์ โดยมีอัตราการให้สิทธิผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมเท่ากับ 2.43 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 1 หน่วยทรัสต์ใหม่
มีระยะเวลาจองซื้อสำหรับผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมระหว่างวันที่ 30 พ.ย.ถึง 4 ธ.ค. 2558 ส่วนที่จะเสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไป (Public Offering) จำนวนประมาณ 83.35 ล้านหน่วยทรัสต์ มีระยะเวลาจองซื้อสำหรับนักลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 8 ถึง 15 ธ.ค. 2558 ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่า 2,243 ล้านบาท ส่วนเงินลงทุนส่วนที่เหลือจำนวน 961.29 ล้านบาทมาจากเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน
สำหรับทรัพย์สินที่ TREIT จะเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมนั้นรวมจำนวน 53 ยูนิต มีพื้นที่ทั้งสิ้น 155,182 ตร.ม. ได้แก่ คลังสินค้าของทีพาร์ค ได้แก่กรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิทธิในการเช่าที่ดินจำนวน 46 ยูนิต พื้นที่ 133,282 ตร.ม. ส่วนอีก 7 ยูนิตนั้นเป็นโรงงานของบริษัท ไทคอน ได้แก่กรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิทธิในการเช่า รวมพื้นที่ 21,900 ตร.ม. โดยเป็นสัดส่วนคลังสินค้าประมาณ 86% และโรงงานประมาณ 14% และมีโครงสร้างของทรัพย์สินที่ลงทุนเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) ประมาณ 47% และเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ประมาณ 53%
นายจรัสฤทธิ์กล่าวต่อว่า แผนการเติบโตของ TREIT ในปี 2559 ไม่ได้จำกัดแค่การเพิ่มทุนจากทรัพย์สินของกลุ่มTICON เท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างไปถึงทรัพย์สินที่อยู่นอกกลุ่มด้วยเช่นกัน เพราะบริษัทเป็นผู้จัดการกองทรัสต์ที่มีการบริหารเชิงรุกที่มองหาโอกาสในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูงทั้งในประเทศและนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการเพิ่มทุนเพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ TREIT แล้ว บริษัทยังมองหาโอกาสในการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อลงทุนในทรัพย์สินประเภทอื่นด้วยเช่นกัน
นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดเด่นของ TREIT คือการมีทรัพย์สินตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ กระจายตัวอยู่ใน 16 ทำเลที่ตั้งซึ่งมีการคมนาคมสะดวก อาทิ ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคต่างๆ ขณะเดียวกันยังมีคุณภาพสูงเนื่องจากทรัพย์สินค่อนข้างใหม่ มีการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายตามความต้องการของผู้เช่า คลังสินค้ามีการออกแบบรองรับระบบการจัดการคลังสินค้าสมัยใหม่ โรงงานมีการก่อสร้างโดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์พื้นที่ใช้สอยสูงสุด นอกจากนี้ยังมีผู้เช่าที่เป็นบริษัทชั้นนำและฐานะการเงินมั่นคงจากในประเทศและต่างประเทศ และเป็นผู้ประกอบการในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ลอจิสติกส์ อุปโภคบริโภค เป็นต้น” นายวีรพันธ์กล่าว
นายประเสริฐ ดีจงกิจ รองผู้จัดการอาวุโส และผู้จัดการ ฝ่ายทุนธนกิจ สายวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวว่า มั่นใจการเพิ่มทุน TREIT ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากการใช้สิทธิ์ของผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมและในส่วนของนักลงทุนทั่วไป จากศักยภาพของทรัพย์สินที่เข้าลงทุน พร้อมกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการทรัพย์สินมายาวนานกว่า 25 ปี ของบริษัทไทคอน ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาโรงงานสำเร็จรูป และบริษัททีพาร์ค ผู้นำด้านการพัฒนาคลังสินค้าคุณภาพสูงเพื่อให้เช่าที่เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (Property Manager) ในการบริหารทรัพย์สินดังกล่าวให้เป็นไปตามเป้าหมายและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ นอกจากนี้แล้ว นับตั้งแต่จัดตั้ง TREIT (เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2558) ยังสามารถจ่ายผลตอบแทนไปแล้วจำนวน 3 ครั้ง รวม 0.6859 บาทต่อหน่วยทรัสต์
