โดย บลจ.อเบอร์ดีน
ผู้ซื้อต้องรู้จักสินค้าที่กำลังซื้อ เป็นคำแนะนำผู้บริโภคมานานมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คำพูดที่ว่า “ตาดีได้ตาร้ายเสีย” ยังคงใช้ได้ดีถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุน เพราะถ้าคุณซื้อหุ้นแล้วราคาหุ้นลดลง คุณก็ไม่สามารถเรียกร้องขอเงินของคุณคืนมาได้
ที่ บลจ.อเบอร์ดีน วิธีในการลงทุนของเราก็เหมือนพื้นฐานการลงทุนทั่วไป ถ้าคุณไม่เข้าใจปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้บริษัทนั้นๆ แข็งแกร่ง เช่น กระแสเงินสดและหนี้สิน คุณก็ไม่สามารถประเมินมูลค่าของบริษัทนั้นได้ และถ้าคุณไม่รู้ว่าบริษัทนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่ คุณก็จะไม่รู้ว่าหุ้นของบริษัทนั้นควรมีราคาเท่าไหร่
เราจะดูรายงานผลประกอบการประจำปีก่อนเสมอ ซึ่งจะให้คำตอบพื้นฐานว่าบริษัทนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ใครคือคู่ค้า และลูกค้าของบริษัทนี้ รวมถึงข้อได้เปรียบของบริษัทนี้ว่ามีอะไรบ้าง และบริษัทนี้ทำเงินได้อย่างไร คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรในการทำความเข้าใจต่อคำตอบเหล่านี้
แม้ว่าความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุน แต่ที่สำคัญมากกว่า ได้แก่ ความเข้าใจในกระบวนการผลิตทั้งหมดรวมถึงพฤติกรรมของอุตสาหกรรมด้วย ยกตัวอย่างเช่น Kodak ไม่ได้ตระหนักถึงกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่เกิดขึ้น และต้องล้มละลายไป
เราพอใจธุรกิจที่เรียบง่ายเสมอ เพราะว่าสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า ในเอเชียเราสนใจธุรกิจอุปโภคบริโภค ตั้งแต่ค้าปลีก ไปถึงอสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงธุรกิจก่อสร้าง หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ธุรกิจผลิตปูนซีเมนต์ ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่จะเฟื่องฟูขึ้นมา
แน่นอนว่าธุรกิจที่เรียบง่ายก็มีจุดอ่อนด้วย เมื่อเป็นอุตสาหกรรมที่มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาได้ง่าย คู่แข่งก็ย่อมเกิดขึ้นเร็ว และทำให้กำไรส่วนต่างของบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ต้องลดลง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม วอร์เรน บัฟเฟตต์ จึงชอบที่จะซื้อหุ้นของบริษัทที่มีธุรกิจง่ายๆ แต่ก็มีการป้องกันการเข้ามาของคู่แข่งอย่างแข็งแกร่งด้วย ซึ่งเป็นคำเปรียบเปรยของบัฟเฟตต์ ในการคุ้มครองธุรกิจจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการผูกขาดตลาดแต่เพียงผู้เดียวหรือในทางอื่น
บริษัทที่มีรายได้ที่มั่นคงมากกว่า และสามารถคาดการณ์ได้ เช่น บริษัทที่ดำเนินการด้านสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า หรือน้ำ เป็นการผูกขาดตลาดแต่เพียงผู้เดียวโดยธรรมชาติ เพราะเป็นสาธารณสมบัติ และการก่อสร้างสาธารณูปโภคมีราคาแพง ในขณะที่การผูกขาดตลาดด้านโทรคมนาคมกลับถูกยกเลิกไป เราแทบไม่มีที่สำหรับผู้ประกอบการมากกว่า 2-3 รายในตลาดเพียงแห่งเดียว
เมื่อมีผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายในตลาดใดก็ตาม ก็มักจะมีโอกาสที่หน่วยงานทางการที่เป็นผู้กำกับดูแลอุตสาหกรรมจะทำการทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในตลาด ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อผู้ประกอบการรู้จักตลาดของตนดีกว่าผู้กำกับดูแลอุตสาหกรรม และสามารถใช้ข้อมูลนี้มาตกลงค่าธรรมเนียมการบริการต่อผู้กำกับดูแลอุตสาหกรรม และจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง และ/หรือกำไรที่ควรจะได้ ซึ่งอาจจะดีสำหรับนักลงทุน แต่ไม่ดีต่อผู้บริโภค
แน่นอนว่า นักลงทุนบางรายอาจคิดว่าธุรกิจง่ายๆ มันน่าเบื่อเกินไป พวกเขาต้องการธุรกิจใหม่ตัวต่อไป เช่น เกมออนไลน์ ธุรกิจบริการท่องอวกาศ และฟาร์มนกกระจอกเทศ ที่ล้วนเคยอยู่ในความสนใจในช่วงเวลาสั้นๆ มาก่อน แต่ความปรารถนาในสิ่งใหม่ๆ อาจจะเป็นกับดักสำหรับบางคนที่ประมาทเลินเล่อได้ ถ้าอะไรก็ตามดูจะดีเกินกว่าความเป็นจริง ก็มักจะไม่เป็นจริง หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่เคยมีราคาแพงผิดปกติก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
เรานิยมในธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์จริง บริการจริง และลูกค้าที่ซื้อจริง Staples ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนซึ่งมีอุปสงค์ค่อนข้างสม่ำเสมอ ย่อมง่ายต่อการขายมากกว่าการขายผลิตภัณฑ์ที่มีอุปสงค์ตามวงจรเศรษฐกิจ หรือที่มีลักษณะฟุ่มเฟือยมากกว่า
โปรดพยายามยับยั้งความเชื่อมั่นที่มากเกินไป และเก็บมุมมองจากประสบการณ์ส่วนตัวไว้ โปรดตระหนักว่าหุ้นของบริษัทที่คุณอาจจะซื้อเป็นที่รู้กันดีว่าจะอยู่ในกระแสการลงทุนได้ไม่นาน ปีนี้กระแสคือหุ้นตัวนี้ที่คุณชอบ ปีหน้าอาจไม่ใช่
ดังนั้น โปรดใช้สามัญสำนึกเป็นเครื่องนำทางที่ดีที่สุด ทำความเข้าใจอำนาจในการตั้งราคา รางวัลที่ได้รับไม่เพียงแค่การได้หลีกเลี่ยงราคาหุ้นที่ไม่เหมาะสม แต่ยังได้พบมูลค่าหุ้นที่แท้จริง ตลาดหุ้นอาจดูเหมือนมีระบบที่มีประสิทธิภาพแล้ว แต่บริษัทดีๆ อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ หรือจากพฤติกรรมของคู่แข่งในตลาดที่ไม่เป็นจริง และไม่เป็นธรรมต่อบริษัท
ในบางครั้งบริษัทอาจมีอุปสรรคจากความเปลี่ยนแปลง หรือมีธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งยังไม่มีใครเคยวางตลาดมาก่อนเลย บางครั้งก็สามารถเป็นเหตุผลสำหรับการลงทุนในบริษัทที่มีความซับซ้อน หรือในบริษัทที่มีโครงสร้างซับซ้อน เช่น เป็นเครือธุรกิจใหญ่ ซึ่งบางส่วนในเครือไม่ได้มีผลต่อมูลค่าทั้งหมดของเครือธุรกิจนี้
ตัวอย่างที่ดีได้แก่ MTR Corp ซึ่งเป็นเจ้าของ และประกอบการรถไฟใต้ดินในฮ่องกง ที่มีประชาชนมากกว่า 5.4 ล้านคนใช้บริการทุกวันทำงาน เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เราได้ทำการวิเคราะห์ธุรกิจของ MTR ที่กำลังออกหุ้นใหม่ก่อนเข้าตลาดหุ้น และพบว่า MTR มีพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ที่มีนัยสำคัญที่อยู่เหนือสถานีรถไฟใต้ดินของ MTR ซึ่งมีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่จะมีคนเดินผ่านไปมามาก แต่ตลาดหุ้นไม่ได้รับรู้ถึงจุดนี้
และหุ้นของ MTR ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจมากสำหรับการลงทุน
ติดตามตอนที่ 5 ในสัปดาห์หน้า
