บลจ.วรรณ ประเมินดัชนีหุ้นไทยมีลุ้นแตะ 1,516 จุดในปีนี้ หากเฟดเลื่อนช่วงเวลาขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปในปีหน้า ล่าสุด อนุมัติจ่ายปันผลกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว (1S-LTF)ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.55 บาท
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ตลาดเริ่มคาดการณ์ช่วงเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เป็นช่วงปี 2559 ได้ส่งผลบวกต่อภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/58 ซึ่งบริษัทมองว่าจะเริ่มมีเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลกลับมาในตลาดหุ้นไทย โดยหากพิจารณาในช่วง 1 เดือน นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิเข้ามาที่ประมาณ 6.4 พันล้านบาท จากก่อนหน้าที่มีการขายสุทธิต่อเนื่องจากปีก่อนประมาณ 1 แสนล้านบาท ประกอบกับในช่วงที่เหลือของปีนี้ตลาดหุ้นไทยจะแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศที่มาจากกองทุนลดหย่อนภาษี LTF และ RMF โดยพิจารณาจากอดีตการซื้อขายในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ระยะเวลา 2 เดือนสุดท้ายของปีจะมีเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
“เราคาดว่าดัชนีปีนี้น่าจะสามารถปรับตัวแตะที่ระดับ 1,450 จุดได้ไม่ยาก ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีหากยังมีสภาพคล่องในตลาดหุ้นมีเพิ่มขึ้นจากการทำ QE เพิ่มของธนาคารกลางของยูโรโซน และธนาคารกลางของญี่ปุ่น และธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มเลื่อนการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปี 2559 รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งมาอยู่ที่ 1.25%และ เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาสามารถฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จากปัจจัยดังกล่าวเรามองว่ามีโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยจะปรับขึ้นแตะที่ระดับ 1,516 จุด”
นายวิน กล่าวต่อว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงมี Valuation ที่น่าสนใจ โดยคาดการณ์อัตราการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 3.15% และมีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ประมาณ 21.73% ในขณะที่คาดการณ์ตลาดในประเทศในกลุ่ม Tips ประกอบด้วย ประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อยู่ที่ 1.93% 4.77% และ 2.12% 20.36% ตามลำดับ
ทั้งนี้ บลจ.วรรณ ประกาศจ่ายปันผลกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว (1S-LTF) ที่สามารถปรับตัวได้ค่อนข้างดี โดยจะจ่ายปันผลในอัตราหน่วยลงทุน 0.55 บาท และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558
สำหรับกองทุน 1S-LTF เน้นกลยุทธ์การลงทุนแบบการคัดสรรหุ้นเฉลี่ยลงทุน 20 หลักทรัพย์ โดยเน้นหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีอัตราการจ่ายปันผลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด และหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในแต่ละช่วงที่เหมาะสม ซึ่งต้องมีอัตราหนี้สินต่อทุนที่ต่ำ โดยเฉพาะหุ้นที่มีขนาดกลางและใหญ่