xs
xsm
sm
md
lg

“ประภาส” ชี้การลงทุนผันผวน เผยตั้ง บลจ.ใหม่เปิดตัวต้นปีหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประภาส” มองการลงทุนทั้งในและต่างประเทศยังผันผวนในอีก 1-2 ปี แนะนักลงทุนรอจังหวะซื้อและปรับพอร์ตเมื่อราคาสูงขึ้น เผยเตรียมตั้ง บลจ.ใหม่ คาดน่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในกองทุนรวม และอดีตผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลดลงแตะที่ระดับ 1,200 จุดได้ไม่ยาก โดยเฉพาะช่วง 1-2 เดือนจากนี้ ด้วยปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามากระทบอย่างต่อเนื่อง ด้านนักลงทุนแนะว่า ช่วงที่หุ้นไทยปรับลดลงมาใกล้ระดับ 1,200 จุดดังกล่าว ให้นักลงทุนหาจังหวะเข้าลงทุนเพิ่มเพื่อทำกำไรสำหรับนักลงทุนระยะยาว และเชื่อว่าดัชนีหุ้นไทยในช่วงปีหน้ายังคงมีความผันผวนต่อเนื่องเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,200-1,500 จุด ทั้งนี้ สถานการณ์ความผันผวนของหุ้นไทย คาดว่าอาจจะยืดเยื้อออกไปนานถึง 1-2 ปีข้างหน้า โอกาสจะเห็นดัชนีแตะที่ 1,200 จุดในช่วงปี 59 มีมากเช่นกัน

สำหรับการลงทุนของนักลงทุนต่างๆ ทั่วไปต้องมีความระมัดระวังการลงทุนอย่างใกล้ชิด และต้องคำนึงเสมอในเรื่องของการปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน เพราะตราบใดที่ผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงโอกาสที่ผลตอบแทนจะถูกปรับลดลงมามากก็มีเช่นเดียวกัน แม้กระทั่งการลงทุนในกองทุนรวมต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะความเสี่ยงของการลงทุนในช่วงที่ผลตอบแทนปรับตัวขึ้นสูงคือแรงขายทำกำไร ดังนั้น นักลงทุนควรหาจังหวะปรับพอร์ตการลงทุนช่วงที่ราคาหุ้นหรือผลตอบแทนปรับตัวขึ้น แล้วหันมาพักเงินไว้ในตลาดตราสารหนี้แทน ก่อนเข้าไปลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมต่างๆ ช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงมา

ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศจะมีความผันผวนต่อเนื่อง ตลาดหุ้นยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่นปีหน้าจะแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากราคาหุ้นดังกล่าวได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนอาจเจอสถานการณ์เทขายทำกำไร ส่วนหุ้นไทยหากหุ้นต่างประเทศดีหุ้นไทยจะไม่ค่อยดี ซึ่งมักจะสวนทางตลอด และหุ้นไทยจะไซด์เวย์ดาวน์ภายใน 1-2 เดือน โอกาสจะได้เห็น 1,200 จุด ดังนั้นนักลงทุนควรหาจังหวะเก็บ

“กองทุนต่างประเทศที่ออกใหม่หากมองในอดีตจะเห็นว่าเทรนด์จะเป็นในลักษณะนี้คล้ายกับหุ้นไทย ดังนั้นความผันผวนจากต่างประเทศและภายในประเทศที่เป็นอยู่ในขณะนี้นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการลงทุนจับทิศทางเพิ่มความยากมากขึ้น นักลงทุนควรมีที่ปรึกษาทางการเงินอย่างใกล้ชิด และภายใน 2 ปีนี้จะเป็นปีแห่งการพิสูจน์ฝีมือ”

ส่วนตลาดหุ้นจีนที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาจาก 2,000 จุดมาที่ 5,000 จุดนั้น เชื่อว่าหุ้นจีนจะปรับฐานใกล้ 2,000 จุด เพราะหุ้นจีนสวิงแรงขึ้นและจะไซด์เวย์ไปอีก 2 ปีข้างหน้า ความจริงหุ้นจีนไม่ได้แพงเพียงแต่ว่าภาพการลงทุนของตลาดหุ้นจีนเสีย ในเรื่องของการขายหุ้นของต่างชาติภายใน 6 เดือนเพราะเป็นข้อจำกัดในการขายทำหุ้น ถือว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ในแง่ของเศรษฐกิจจีน มองว่าทางการจีนยังมีเครื่องมืออีกมาก โดยเฉพาะเรื่องของดอกเบี้ย

นายประภาส กล่าวว่า ล่าสุดได้ร่วมมือกับอดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อย่างนายฉัตรพี ตันติเฉลิม อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี และนางโชติกา สวนานนท์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ ในการขอจัดตั้ง บลจ.น้องใหม่กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในเดือน ต.ค. 58 นี้ เพื่อจะดำเนินงานอย่างเป็นทางการภายในต้นปี 59

สำหรับ บลจ.ใหม่ที่ขอจัดตั้งครั้งนี้มีผู้ถือหุ้นหลักๆ อยู่ 3 ราย คือ นายฉัตรพี ตันติเฉลิม อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี นายประภาส ตันติพิบูลย์ศักดิ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.กรุงศรี และนางโชติกา สวนานนท์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ ภายใต้ชื่อ บริษัท ทาลิส แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด

นอกจากนี้ นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเข้ามาร่วมถือหุ้นในบริษัทด้วย ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นบริษัทที่มีการร่วมทุนของผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการลงทุนและการเมืองเป็นอย่างดี โดยตัวธุรกิจจะเน้นเสนอขายกองทุน 2 ประเภท ได้แก่ กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) และกองทุนรวม (Mutual Fund) ส่วนกองทุนในรูปแบบอื่น เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) นั้นอาจจะลดความสำคัญลง เนื่องจาก บลจ.ที่ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมักจะต้องมีประวัติการบริหารยาวเพียงพอ และต้องมีขนาดสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ที่สูงระดับหนึ่ง จึงจะได้รับความสนใจจากองค์กรต่างๆ ที่จะนำเงินมาให้บริหาร

“หากมีการยื่นขอใบอนุญาตเพื่อขอจัดตั้ง บลจ.ใหม่ต่อ ก.ล.ต.ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ก็คาดว่า บลจ.นี้น่าจะให้บริการได้ภายในต้นปีหน้า เพราะตามกระบวนการปกติของการพิจารณาให้ใบอนุญาตเพื่อขอจัดตั้งนั้นคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ดังนั้นถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็น่าจะได้เห็น บลจ.ใหม่ตามกำหนดระยะเวลาดังกล่าว”


กำลังโหลดความคิดเห็น