บลจ.กรุงศรีมองหุ้นญี่ปุ่น เอเชีย และเฮลท์แคร์ทั่วโลกน่าลงทุน ราคาหุ้นไม่แพงให้ผลตอบแทนระยะยาว ส่วนหุ้นไทยต้องรอเม็ดเงินจากภาครัฐหนุน คาดดัชนี 1,480-1,600 จุด
นายไมเคิล วูดลี Client Portfolio Manager, Eastspring Investments (Singapore) Limited กล่าวถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่นว่า ปัจจุบันดัชนีได้ปรับตัวขึ้นไปสูงแต่หุ้นหลายตัวยังไม่ขึ้นไป บริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่นมีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้บริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่นมีความสามารถในการทำกำไรที่มากขึ้น แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังไม่สะท้อนภาวะนี้ ซึ่งทางกองทุน Eastspring ได้เข้าไปหาหุ้นในตลาดญี่ปุ่นที่ราคายังถูกและมีการเติบโต ซึ่งการปรับโครงสร้างของญี่ปุ่นทำให้กำไรของบริษัทมีการเติบโตที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ จากการที่กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของญี่ปุ่นได้เข้าไปซื้อหุ้นในตลาดมากขึ้น เป็นตัวบังคับให้บริษัทในตลาดต้องการผลประกอบการให้ดี ดังนั้นจึงเห็นบริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่นมีผลประกอบการที่ดี ซึ่งคาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทในปี 2016 อยู่ที่ 23%
นางเอวินา ลี CFA Managing Director, Global Equities Team, J.P. Morgan Asset Management กล่าวว่า ปัจจุบันประชากรสูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้มีการใช้จ่ายเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ทำให้แนวโน้มที่จะมีเงินไหลเข้าธุรกิจสุขภาพมากขึ้น และทำให้การลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ทั่วโลกจึงมีความน่าสนใจและยั่งยืน โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น และหุ้นกลุ่มนี้ยังไม่แพง
นายคิม เวง Fund manager, Multi-Asset, Schroder Investment Management กล่าวถึงการลงทุนตลาดเอเชียว่า บริษัทในภูมิภาคเอเชียกำลังมีการเติบโตที่มากขึ้นทั้งราคาหุ้นและการจ่ายปันผลที่มากขึ้น ซึ่งทางกองทุน Schroder จะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีธรรมาภิบาลดีที่สามารถจ่ายปันผลได้สูง อย่างในสิงคโปร์ และฮ่องกง
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นเอเชียยังไม่แพง ยอดขายต่างๆ ของบริษัทมีการฟื้นตัวเพิ่มต่อเนื่อง โดยหุ้นที่น่าสนใจคือกลุ่มสื่อสาร และกองรีทในสิงคโปร์และฮ่องกง ทั้งนี้ แม้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจจะกระทบการลงทุนบ้าง แต่การขึ้นดอกเบี้ยที่เป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้บริษัทมีการปรับตัวมากขึ้น ดังนั้นตลาดหุ้นเอเชียจึงยังเป็นโอกาสการลงทุนที่ดี
นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้น ถ้ามีการลงทุนขนาดใหญ่จากภาครัฐออกมาก็จะทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ดีขึ้น แต่หุ้นไทยยังมีความผันผวน มองว่าดัชนีน่าจะอยู่ที่ 1,480-1,600 จุด โดยหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว พลังงาน ก๊าซ ที่ได้รับอานิสงส์จากการลงทุนภาครัฐยังน่าสนใจ ส่วนการลงทุนในต่างประเทศมองว่าตลาดหุ้นยุโรป และหุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์น่าสนใจ
เผยได้ผู้บริหารใหม่เดือน ส.ค.
นายอลัน แคม รักษาการประธานเจ้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเลือกคนที่เข้ามาเป็นประธานบริหารและประธานการลงทุนคนใหม่ เป็นบุคคลที่อยู่นอกอุตสาหกรรมแบงก์ แต่เป็นคนที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมกองทุน น่าแต่งตั้งได้ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยที่ผ่านมาหลังจากคนเก่าออกไปก็ไม่มีเงินไหลออกไปแต่อย่างใด แต่พบว่ามีไหลเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะธุรกิจของ บลจ.กรุงศรีมีคนที่ทำงานอยู่นานในรูปแบบเป็นทีม จึงไม่มีผลกระทบอะไร