ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ 27 บล. ชั้นนำจัด “SET-TFEX Digital Investor Fair 2015มหกรรมลงทุน หุ้น อนุพันธ์ ออนไลน์” ปี 4 กระตุ้นนักลงทุนใช้เครื่องมือออนไลน์เพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน ขณะที่ บลจ.กรุงศรี ประเมินหุ้นไทยยังผันผวนในกรอบ 1,480-1,600 จุด แนะลงทุนหุ้นท่องเที่ยว ก่อสร้าง น้ำมัน ด้านนักวิเคราะห์ระบุระยะสั้นดัชนียังปรับตัวขึ้นได้จากแรงเก็งกำไร Window Dressing
รายงานข่าวภาวะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2558 ปิดที่ 1,518.26 จุด เพิ่มขึ้น 15.03 จุด เปลี่ยนแปลง +1.00% มูลค่าการซื้อขาย 42,396.12 ล้านบาท โดยดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,518.61 จุด และต่ำสุดที่ 1,506.72 จุด
นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด คาดการณ์ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีจะปรับตัวดีขึ้นจากต้นปี โดยยังมีความผันผวนเป็นระยะ พร้อมคาดการณ์ว่า ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,480-1,600 จุด
“ตลาดยังได้รับข่าวดีหลังจากธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ขยายเพดานระยะเวลาชำระหนี้ให้กรีซ ส่วนปัจจัยในประเทศเห็นผลจากการลงทุนของรัฐบาลที่มีการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ และการผลิตของภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน” นางสุภาพร กล่าว
ส่วนหุ้นที่ยังน่าลงทุน นางสุภาพร ระบุยังเป็นหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว แม้จะได้รับปัจจัยจากผลกระทบไวรัสเมอร์ส แต่เชื่อว่าจะเป็นระยะสั้น นอกจากนี้ ยังมีหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ก่อสร้าง และน้ำมัน ด้านนายอรัญ แคม กรรมการ บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคมจะได้ผู้ที่มาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ และตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนแทนผู้บริหารคนเดิมที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยที่ผ่านมา แม้ตำแหน่งจะว่างแต่ไม่กระทบต่อการบริหารงาน เพราะ บลจ.กรุงศรีมีการดำเนินงานรวมกันเป็นทีม และมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหาร 300,000 ล้านบาท หรือมาการเติบโต 10% จากต้นปี
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ธนชาต สรุปทิศทางตลาดหุ้นวานนี้ ดัชนีสามารถยืนเหนือ 1,510 จุดได้ จากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่คาดหวัง Window Dressing โดยกลุ่มรับเหมาก่อสร้างคาดว่าจะเป็นกลุ่มหุ้นที่ Outperform ตอบรับแผนการลงทุนภาครัฐฯ ที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนโครงการขนาดใหญ่อย่างรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วปานกลาง รถไฟฟ้า รวมไปถึงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องต่อประมาณการเศรษฐกิจของ ธปท.ล่าสุด ที่แม้จะปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโดยรวมลงเหลือ +3.0% จากเดิม +3.8% แต่คาดการณ์การลงทุนภาครัฐฯ เร่งตัวขึ้นเป็น +16.3% และจะขยายตัวต่อเนื่อง +6% ในปี 2559
พร้อมคาดการณ์ระยะสั้นดัชนียังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,520-1,530 จุด และแนะนำเก็งกำไรหุ้นแนวโน้มเป็นบวก และ/หรือเป้าหมาย Window dressing แต่ยังคงมุมมองการลงรอบนี้เป็นโอกาสในการทยอยซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ขณะที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. จัดงาน “SET-TFEX Digital Investor Fair 2015 มหกรรมลงทุน หุ้น อนุพันธ์ ออนไลน์” ระหว่างวันที่ 25-28 มิ.ย.2558 โซน EDEN และ Central Court ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดย นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. ระบุว่า นักลงทุนในปัจจุบันหันมาใช้เทคโนโลยี และเครื่องมือผ่านช่องทางออนไลน์ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดตามข้อมูลต่างๆ การทำธุรกรรมทางการเงิน และซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2555-2557) มีการเติบโตของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นถึง 83% หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 28% สัดส่วนจำนวนผู้ลงทุนออนไลน์ต่อจำนวนผู้ลงทุนทั้งหมดปัจจุบันอยู่ที่ 75.1% มูลค่าการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตต่อมูลค่าการซื้อขายรายย่อยปัจจุบันอยู่ที่ 65.3% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 59%
“ตลาดฯ เน้นปลุกกระแสเทรนด์ใหม่การลงทุน สร้างแนวคิดการลงทุนแบบ DI (Digital Investor) “เรียนรู้การเลือกลงทุนคุณภาพแบบ VI เทรดเองได้ใช้เครื่องมือเป็นแบบ DI” เน้นการสร้างผู้ลงทุนยุคดิจิตอลที่สามารถใช้เครื่องมือออนไลน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน นับเป็นอีกกิจกรรมที่จะเชื่อมต่อประชาชนเข้าสู่โลกการลงทุน” นางเกศรา กล่าว
รายงานข่าวภาวะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2558 ปิดที่ 1,518.26 จุด เพิ่มขึ้น 15.03 จุด เปลี่ยนแปลง +1.00% มูลค่าการซื้อขาย 42,396.12 ล้านบาท โดยดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,518.61 จุด และต่ำสุดที่ 1,506.72 จุด
นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด คาดการณ์ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีจะปรับตัวดีขึ้นจากต้นปี โดยยังมีความผันผวนเป็นระยะ พร้อมคาดการณ์ว่า ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,480-1,600 จุด
“ตลาดยังได้รับข่าวดีหลังจากธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ขยายเพดานระยะเวลาชำระหนี้ให้กรีซ ส่วนปัจจัยในประเทศเห็นผลจากการลงทุนของรัฐบาลที่มีการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ และการผลิตของภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน” นางสุภาพร กล่าว
ส่วนหุ้นที่ยังน่าลงทุน นางสุภาพร ระบุยังเป็นหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว แม้จะได้รับปัจจัยจากผลกระทบไวรัสเมอร์ส แต่เชื่อว่าจะเป็นระยะสั้น นอกจากนี้ ยังมีหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ก่อสร้าง และน้ำมัน ด้านนายอรัญ แคม กรรมการ บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคมจะได้ผู้ที่มาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ และตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนแทนผู้บริหารคนเดิมที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยที่ผ่านมา แม้ตำแหน่งจะว่างแต่ไม่กระทบต่อการบริหารงาน เพราะ บลจ.กรุงศรีมีการดำเนินงานรวมกันเป็นทีม และมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหาร 300,000 ล้านบาท หรือมาการเติบโต 10% จากต้นปี
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ธนชาต สรุปทิศทางตลาดหุ้นวานนี้ ดัชนีสามารถยืนเหนือ 1,510 จุดได้ จากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่คาดหวัง Window Dressing โดยกลุ่มรับเหมาก่อสร้างคาดว่าจะเป็นกลุ่มหุ้นที่ Outperform ตอบรับแผนการลงทุนภาครัฐฯ ที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนโครงการขนาดใหญ่อย่างรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วปานกลาง รถไฟฟ้า รวมไปถึงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องต่อประมาณการเศรษฐกิจของ ธปท.ล่าสุด ที่แม้จะปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโดยรวมลงเหลือ +3.0% จากเดิม +3.8% แต่คาดการณ์การลงทุนภาครัฐฯ เร่งตัวขึ้นเป็น +16.3% และจะขยายตัวต่อเนื่อง +6% ในปี 2559
พร้อมคาดการณ์ระยะสั้นดัชนียังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,520-1,530 จุด และแนะนำเก็งกำไรหุ้นแนวโน้มเป็นบวก และ/หรือเป้าหมาย Window dressing แต่ยังคงมุมมองการลงรอบนี้เป็นโอกาสในการทยอยซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ขณะที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. จัดงาน “SET-TFEX Digital Investor Fair 2015 มหกรรมลงทุน หุ้น อนุพันธ์ ออนไลน์” ระหว่างวันที่ 25-28 มิ.ย.2558 โซน EDEN และ Central Court ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดย นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. ระบุว่า นักลงทุนในปัจจุบันหันมาใช้เทคโนโลยี และเครื่องมือผ่านช่องทางออนไลน์ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดตามข้อมูลต่างๆ การทำธุรกรรมทางการเงิน และซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2555-2557) มีการเติบโตของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นถึง 83% หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 28% สัดส่วนจำนวนผู้ลงทุนออนไลน์ต่อจำนวนผู้ลงทุนทั้งหมดปัจจุบันอยู่ที่ 75.1% มูลค่าการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตต่อมูลค่าการซื้อขายรายย่อยปัจจุบันอยู่ที่ 65.3% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 59%
“ตลาดฯ เน้นปลุกกระแสเทรนด์ใหม่การลงทุน สร้างแนวคิดการลงทุนแบบ DI (Digital Investor) “เรียนรู้การเลือกลงทุนคุณภาพแบบ VI เทรดเองได้ใช้เครื่องมือเป็นแบบ DI” เน้นการสร้างผู้ลงทุนยุคดิจิตอลที่สามารถใช้เครื่องมือออนไลน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน นับเป็นอีกกิจกรรมที่จะเชื่อมต่อประชาชนเข้าสู่โลกการลงทุน” นางเกศรา กล่าว