xs
xsm
sm
md
lg

นักวิเคราะห์ระบุ กรีซ-เมอร์ส ยังมีกระทบจิตวิทยาการลงทุน แต่มี Window Dressing ช่วยประคอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นักวิเคราะห์ระบุการพบผู้ป่วยเชื้อไวรัสเมอร์สในไทเป ยังกระทบจิตวิทยาการลงทุน คาดสัปดาห์หน้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ แต่มี Window Dressing ช่วยประคอง แนะซื้อ KBANK-SPALI-INTUCH ประเมินแนวรับ 1,480 จุด แนวต้าน 1,520 จุด
  
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส แผนกวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมแบงก์ กิมเอ็ง ยอมรับว่า การพบผู้ป่วยเมอร์สรายแรกในประเทศไทยทำให้มีแรงเทขายหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน โรงแรม และโรงพยาบาลออกมาอย่างต่อเนื่องช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม
  
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ปัญหาหนี้กรีซยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อเนื่อง หลังจากไม่มีข้อสรุปในการประชุมร่วมผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรปที่เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. และจะประชุมใหม่อีกครั้งในวันที่ 22 มิ.ย. อีกรอบ หากยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ออกมาอาจจะยืดเยื้อไปถึงปลายสัปดาห์หน้าได้

“นักลงทุนกำลังจับตาดูว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ดังนั้น นักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อหุ้นกลุ่มอื่นอย่าง หุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ที่มักจะอิงกับภาวะตลาดโลกมากกว่า หากย่อตัวลงเป็นจังหวะของการเข้าซื้อ” นายภาดล กล่าว
  
สำหรับสัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยแกว่งตัวซึมลงต่อตามแรงกดดันในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน โรงแรม และโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม มองว่าแรงขายในหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะลดลงไม่หนาแน่นเท่าสัปดาห์ที่ผ่านมา

พร้อมแนะนำให้จับตาการประกาศตัวเลขการส่งออกเดือน พ.ค. ของไทย ที่คาดว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า รวมถึงการทำ Window Dressing ในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ และพลังงาน จะช่วยประคองดัชนีฯ ให้แกว่งลงในกรอบจำกัด หรืออาจช่วยให้ดัชนีฯ พลิกกลับมายืนเหนือ 1,500 จุดอีกครั้งได้
  
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการทำ Window Dressing อย่าง KBANK-SPALI-INTUCH พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,480 จุด แนวต้าน 1,520 จุด
  
สอดคล้องต่อ นายยศพล แสงนิล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีฯ ปรับตัวลงในแดบลบตลอดทั้งวัน จากความกังวลเชื้อไวรัสเมอร์ส หลังจากพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ส่งผลให้มีแรงเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องต่อการท่องเที่ยวออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ปรับลดอันดับความปลอดภัยทางด้านการบินของไทย ส่งผลให้เกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มสายการบิน
  
ส่วนปัจจัยต่างประเทศถือว่าเป็นบวก ทั้งการประชุมฉุกเฉินของกลุ่มยูโรโซนในสัปดาห์นี้ เพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ ซึ่งใกล้ถึงวันกำหนดชำระหนี้ในช่วงปลายเดือนนี้ มูลค่ารวม 1,500 ล้านยูโร ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น เตรียมแผนอัดฉีดสภาพคล่องภายในประเทศเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว รวมไปถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
  
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวลดลงอีกจากความกังวลกรณีไวรัสเมอร์ส ที่ยังคงกดดันหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวให้ปรับตัวลดลงต่อได้ ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม คือ การประกาศตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ ในวันที่ 22 มิ.ย.58 และตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ และคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ในวันที่ 23 มิ.ย.58 กลยุทธ์การลงทุน แนะนำลงทุนระยะสั้น เน้นหุ้นพื้นฐานดี หรือให้อัตราปันผลสูง ประเมินแนวรับ 1,480 จุด แนวต้าน 1,520 จุด

นายสมชาย เอกทวีผล ผู้อำนวยการวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส คาดการณ์ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ตามแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มการแพทย์ และสายการบิน และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคเมอร์ส และประเด็น ICAO ซึ่งเป็นการสวนทางกับตลาดฯ ภูมิภาคเอเชียที่รีบาวนด์หลังคลายความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างช้าๆ พร้อมประเมินแนวรับ 1,480+/- จุด ส่วนแนวต้าน 1,500+/- จุด

ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนรอซื้อช่วงอ่อนตัว หากใครจะขายทำกำไรแนะขายช่วงบวก
กำลังโหลดความคิดเห็น