บลจ.กรุงศรีมองตลาดเอเชียยังให้ผลตอบแทนที่ดี ออกกองทุนผสม “กรุงศรีเอเชียนอินคัมเฮดจ์” (KF-AINCOME) ชูจุดเด่นลงทุนสินทรัพย์ทั่วเอเชีย พร้อมรับผลตอบแทนทุกเดือน เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 19-27 พฤษภาคม 2558
นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า เรามีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก โดยตราสารหนี้ในเอเชียยังคงมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดี และผลตอบแทนของตราสารหนี้ทั้ง High yield และ Investment grade ของเอเชียยังคงให้ผลตอบแทนสูงกว่าตราสารของสหรัฐฯ อยู่มาก แสดงให้เห็นโอกาสที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน ในขณะที่หุ้นในเอเชียก็มีความน่าสนใจจากอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอและโอกาสในการเติบโตจากเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งระดับราคาของหุ้นในเอเชียยังคงน่าสนใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต และเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ โดยอัตราส่วน P/B ของเอเชียในปัจจุบันอยู่เพียง 1.6 เท่า ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของสหรัฐฯ และทั่วโลกอยู่ที่ 2.9 และ 2.3 เท่าตามลำดับ
ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรีกำลังเปิดเสนอกองทุนเปิดกรุงศรีเอเชียนอินคัมเฮดจ์ (KF-AINCOME) เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 19-27 พฤษภาคม 2558 มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก Schroder Asian Income Fund เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อปี และกองทุนจะทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไปยังกองทุน KFCASH ไม่เกินปีละ 12 ครั้ง เพื่อโอกาสในการได้รับผลตอบแทนรายเดือน ทั้งนี้ กองทุน KF-AINCOME มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
นางสาวฉัตรแก้ว เกราะกอง ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า กองทุน KF-AINCOME เป็นกองทุนผสม มีจุดเด่นในเรื่องการสร้างผลตอบแทนที่ดี และจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนเป็นรายเดือน โดยกองทุนนี้มีการลงทุนแบบยืดหยุ่น ปรับน้ำหนักการลงทุนระหว่างหุ้นกับตราสารหนี้ตามภาวะตลาด ซี่งมองว่าขณะนี้ภูมิภาคเอเชียยังให้ผลตอบแทนที่ดี จากอัตราดอกเบี้ยที่ยังสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น
โดยในส่วนของพอร์ตการลงทุนในกองทุนหลักนั้นมีการลงทุนในภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก เน้นลงทุนในออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นกับรีท 50% ตราสารหนี้ 30-40% และรีทในญี่ปุ่นและอื่นๆ อีก 10% กองทุนนี้จึงเหมาะต่อการลงทุนในช่วงนี้ที่ดอกเบี้ยในประเทศต่ำ