บลจ.กสิกรไทยชี้แนวโน้มตลาดทั่วโลกยังผันผวนต่อเนื่อง แนะกระจายลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก

บลจ.กสิกรไทยคืนกำไร “K-GINCOME” รอบแรกในอัตรา 0.0379 บาทต่อหน่วย คิดเป็น 4.50% โอนเงินค่ารับซื้อคืน 18 ส.ค.นี้ เผยแนวโน้มตลาดทั่วโลกยังผันผวนต่อเนื่อง แนะกระจายลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติกองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม (K-GINCOME) ในอัตรา 0.0379 บาทต่อหน่วย ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนของ ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2558 โดยจะโอนเงินค่ารับซื้อคืนอัตโนมัติเข้าบัญชีของผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 18 สิงหาคม 2558 นี้ ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ที่ผ่านมาถึง ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2558 กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เพิ่มขึ้น 0.1054 บาทต่อหน่วย ทำให้กองทุนสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งแรกเพื่อเป็นการคืนกำไรให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 0.0379 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 4.50% ต่อปี

ทั้งนี้ ภาวะการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้มีความผันผวนอย่างมาก โดยมีปัจจัยที่เข้ามากระทบหลายด้าน อาทิ ประเด็นปัญหาหนี้กรีซที่ยืดเยื้อจากกรณีที่รัฐบาลกรีซมีการขอทำประชามติจากประชาชนเพื่อที่จะยอมรับหรือไม่ยอมรับแผนช่วยเหลือจากกลุ่มเจ้าหนี้จนทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนด ทั้งนี้แม้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเริ่มคลี่คลายลง หลังจากกรีซยอมเข้าสู่แผนฟื้นฟูของกลุ่มเจ้าหนี้ในท้ายที่สุดและทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวกลับเป็นบวกได้ แต่ก็มาด้วยความผันผวนที่ค่อนข้างสูง ในขณะที่ฝั่งตลาดหุ้นจีนมีความผันผวนจากแรงเทขายอย่างหนักของนักลงทุน ส่วนประเทศไทยเองก็ยังมีความกังวลในเรื่องของเศรษฐกิจที่ยังออกมาชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมการลงทุนในช่วงประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา (ถึง ณ วันที่ 6 ส.ค. 58) ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง -0.88% โดยตลาดหุ้นไทยปรับลง -4.14%, หุ้นจีน A-Share ปรับลง -27%, หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น 0.16% และหุ้นยุโรปปรับขึ้น 4.31% ด้านตลาดตราสารหนี้ พันธบัตรทั่วโลกปรับตัวขึ้นแค่ 0.56% และตราสารหนี้ประเภท High Yield ทั่วโลกปรับลง -1.44%” นายนาวินกล่าว

“ความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่คาดว่าจะเริ่มในเดือนกันยายนนี้ ทำให้กองทุน K-GINCOME ซึ่งมุ่งเน้นรายได้ประจำสม่ำเสมอทุกเดือนเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและเหมาะสมกับสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากกองทุนจะมีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ประเภททั่วโลก เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) หุ้นบุริมสิทธิ ตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) และสินทรัพย์อื่นๆ ทั่วโลก เพื่อมุ่งหวังรับรายได้ประจำ เช่น เงินปันผลจากหุ้น ดอกเบี้ยรับจากตราสารหนี้ โดยกองทุนมีจุดเด่นสำคัญคือความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องต่อทุกสภาวะการเปลี่ยนแปลงของตลาดอยู่ตลอดเวลา”

สำหรับกองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม (K-GINCOME) มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก JP Morgan Investment Funds - Global Income Fund, Class A (mth) - EUR ซึ่งบริหารจัดการโดย JP Morgan Asset Management หนึ่งในผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก โดยกองทุน K-GINCOME มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ กองทุนจะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน อย่างไรก็ดี เนื่องจากกองทุนจะมีการลงทุนบางส่วนในตราสารที่มีความเสี่ยงและซับซ้อนสูง จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับที่สูงขึ้น และเป็นกองทุนที่มุ่งเสนอขายกลุ่มผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูง โดยสามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 550,000 บาท