บลจ.เอ็มเอฟซีมองปัญหากรีซจะกระทบตลาดเพียงระยะสั้นๆ คาดอียูจะรับมือปัญหาโหวต NO ของกรีซได้ แนะหาจังหวะเข้าลงทุนในหุ้นไทยและหุ้นยุโรป ล่าสุดส่งกองทุน “เอ็มเอฟซี สมาร์ท อินเวสเมนท์ ซีรี่ส์ 5 อี 3” ลุยลงทุนหุ้นไทย-หุ้นยุโรป ตั้งเป้าผลตอบแทน 5% ภายใน 5 เดือน เปิดขายหน่วยลงทุนแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 17 กรกฎาคม 2558
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซีมองว่ายังมีปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในไทยและยุโรป คือ เศรษฐกิจในประเทศไทยสามารถฟื้นตัวได้ หลังจากการลงทุนภาครัฐที่เริ่มเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น และถึงแม้ว่านักวิเคราะห์ยังคงมีการปรับลดประมาณการของบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ Valuation ของ SET Index ยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการ Downgrade จะยุติลงหลังมีการประกาศผลประกอบการไตรมาสสอง นอกจากนี้มีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐ การประมูล 4G ท่องเที่ยว ขนส่ง และ Trading หุ้นกลุ่มวัฏจักรจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สำหรับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยุโรปมีการฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกลุ่ม Periphery ในช่วงไตรมาสสองปีนี้ เนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ (QE:Quantitative Easing) ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยภายในสหภาพยุโรป รวมถึงช่วยเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนและผู้บริโภคภายในยุโรป นอกจากนี้ การทำ QE ยังช่วยให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าอย่างมาก ช่วยส่งเสริมยอดขายของบริษัทส่งออกในยุโรป เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการชำระหนี้ของกรีซและเจ้าหนี้ ได้แก่ IMF ECB และ Troika ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้น หลังจากที่กรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการรัดเข็มขัดทางการคลังเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือ ส่งผลให้ความเสี่ยง Grexit มีสูงขึ้น แต่ความเสี่ยงของการลุกลามไปประเทศอื่นๆ ในยุโรปมีน้อยลง หลังจากธนาคารต่างๆ ในยุโรปได้เตรียมพร้อมและลดการทำธุรกรรมกับธนาคารพาณิชย์กรีซเแล้ว
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปเป็นตลาดที่น่าสนใจ หลังจากที่ Valuation มีการปรับลดลง และมีมูลค่าที่ถูกกว่าภูมิภาคอื่นๆ ภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณจะเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะตราสารทุนในยุโรป
นางสาวประภา กล่าวต่อว่า เอ็มเอฟซีเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สมาร์ท อินเวสเมนท์ ซีรี่ส์ 5 อี 3 หรือกองทุนเปิด SI5E3 ตั้งแต่วันนี้ถึง 17 กรกฎาคม 2558 ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะลงทุนได้ทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคยุโรปโดยขึ้นกับสภาวะตลาดของแต่ละประเทศ มีสัดส่วนลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยตั้งเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ภายใน 5 เดือน ซึ่งกองทุนมีการกระจายความเสี่ยงในหลายประเทศ และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสภาวการณ์
ทั้งนี้ กองทุนเปิด SI5E3 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ถือหน่วยลงทุนร้อยละ 5 ภายใน 5 เดือน เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.60 บาทขึ้นไป เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกันหรือเมื่อทรัพย์สินเป็นเงินสดทั้งหมด โดยบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOVในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 105 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) และบริษัทจะเลิกโครงการกองทุนดังกล่าว แต่หากเกิน 5 เดือนกองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และกองทุนยังคงตั้งเป้าหมายเลิกโครงการร้อยละ 5 ต่อไป
โดยกองทุนเปิด SI5E3 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสของผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตราสารทุนทั้งในและต่างประเทศและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ และการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในต่างประเทศ ผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท