ลงทุนในกองทุนรวมอย่างไร ให้ถูกต้องตามหลักอิสลาม

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ
Dr.win@one-asset.com

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนให้แก่พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนแต่ละท่าน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ในช่วงถัดไป แต่อย่างไรก็ดี การลงทุนในบางลักษณะก็อาจต้องเผชิญข้อจำกัดในการลงทุนบ้างบางประการ เช่น การลงทุนของหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งได้กำหนดข้อจำกัดในการลงทุนในบางข้อ ส่งผลให้นักลงทุนอาจไม่สามารถลงทุนในหุ้นที่เข้าข่ายต้องห้ามได้ และมี Criteria ในการลงทุนที่แตกต่างไปจากศาสนาอื่นๆ

สำหรับการลงทุนให้ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม หรือที่เรียกว่า “Shariah Compliance” จะห้ามลงทุนในหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับดอกเบี้ย (Riba) รวมถึงหุ้นจากบริษัทที่มีรายได้จากดอกเบี้ย / การห้ามลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการพนัน (Maisir) เช่น การเล่นไพ่ หรือธุรกิจพนันต่างๆ เช่น บริษัทลอตเตอรี่ออนไลน์ บริษัทที่ให้บริการเครื่องเล่นเสี่ยงโชค หรือการกระทำใดๆ ก็ตามที่ไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลมาก่อนหน้า และห้ามลงทุนธุรกิจที่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุรา สิ่งมึนเมา คาราโอเกะ สุกร กาสิโน เป็นต้น

รวมทั้งห้ามลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอน (Gharar) ซึ่ง Criteria ในการออมและการลงทุนที่จะเข้าข่ายในลักษณะดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทำให้การออมและการลงทุนของนักลงทุนศาสนาอิสลามมีค่อนข้างจำกัด โดยปัจจุบันมีช่องทางเพียงการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์ อย่างเช่น ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือการลงทุนในหุ้นที่เป็นไปตามดัชนี FTSE SET Shariah Index ซึ่งเป็นความร่วมมือของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการจัดทำดัชนีฯ ดังกล่าว

ในแง่ของการลงทุนที่จะให้มั่นใจได้ว่าการลงทุนถูกต้องตามหลักศาสนาหรือไม่ อย่างไรนั้น โดยทั่วไปควรจัดตั้งคณะกรรมการชารีอะห์ซึ่งเป็นผู้พิจารณาหรือรับรองว่าหลักทรัพย์ที่ลงทุนถูกต้องตามหลักศาสนาหรือไม่ ซึ่งในส่วนของ บลจ.วรรณ ได้เพิ่มทางเลือกการลงทุนให้แก่ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามและนักลงทุนทั่วไปที่ต้องการลงทุนในกรอบดังกล่าว โดยมีคณะกรรมการชารีอะห์พิจารณาหลักทรัพย์ก่อนการลงทุนของกองทุน

โดยกองทุนแรกที่ บลจ.วรรณเสนอขายคือ กองทุนเปิด วรรณ กองทุนคุณธรรม (ชะรีอะห์) 6 ฟันด์ (ONE-SHARIAH 6) ในช่วงระหว่างวันที่ 18-26 พ.ค. 58 โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 6% ภายในเวลา 12 เดือน โดยกองทุนฯ จะคัดเลือกหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เข้าข่ายการลงทุนและได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการทางชารีอะห์ ซึ่งปัจจุบันมีหุ้นที่ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการดังกล่าวประมาณกว่า 500 หุ้นเพื่อลงทุน โดยกองทุนฯ จะจัดพอร์ตการลงทุนโดยผสมหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดประมาณ 10-15 หลักทรัพย์ หรือประมาณ 60% ของพอร์ตการลงทุน เพื่อให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น ขณะที่ลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กอีกประมาณ 5-10 หลักทรัพย์ หรือประมาณ 40% ของพอร์ตการลงทุนที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงในระยะ 3 ปีข้างหน้า (Growth Stock) และหุ้นที่มีปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัว รวมทั้งหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลประกอบการที่ดีและมีกำไรในอนาคต (Turnaround) เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้แก่กองทุน โดยกองทุนฯ จะเน้นหุ้นกลุ่มเป้าหมายที่จะลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่โดดเด่น และมีมูลค่าหุ้นที่ต่ำกว่าระดับที่ไม่เหมาะสม เช่น วัสดุก่อสร้าง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น

การลงทุนในกองทุนรวมประเภท Trigger Fund ลักษณะนี้เป็นการลงทุนตามหลักการของทางศาสนาอิสลามที่ยอมรับได้ เนื่องจากเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนจากหุ้นสามัญที่มาจากเงินปันผลและส่วนต่างราคาหุ้น ขณะที่การลงทุนของกองทุนฯ ได้มีการวิเคราะห์ข้อมูล สภาพเศรษฐกิจ และการวิเคราะห์งบการเงินและเชิงเทคนิคเพื่อลงทุนไม่ได้เข้าข่ายการลงทุนแบบไม่มีข้อมูลรองรับหรือเข้าข่ายของการเสี่ยงโชค เป็นต้น หากนักลงทุนท่านใดสนใจสามารถติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมและหนังสือชี้ชวนได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้าและสนับสนุนธุรกิจที่หมายเลข 0-2659-8888 ต่อ 1

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

การกำหนดมูลค่าหน่วยลงทุนที่เป็นเป้าหมายเป็นเพียงเหตุให้มีการเลิกกองทุนหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายนั้น การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่เป็นการประมาณการหรือรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามมูลค่าที่กำหนดเมื่อเลิกกองทุนหรือเมื่อมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ทั้งนี้ หากภาวะตลาดหรือภาวการณ์ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์ กองทุนรวมอาจไม่ดำเนินการเลิกกองทุนหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายภายในระยะเวลา 12 เดือน กองทุนจะเปิดให้ซื้อหน่วยลงทุนทุกวันทำการ โดยมีเงื่อนไขการเลิกโครงการเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.60 บาทต่อหน่วย