รอยเตอร์ - เขตปกครองอาเจะห์เหนือของอินโดนีเซียผ่านกฎหมายกำหนดให้โรงเรียนต้องสอนเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงแยกกัน และมุ่งหวังที่จะสานต่อความพยายามนี้ด้วยการห้ามไม่ให้ผู้ชายและผู้หญิงนั่งรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน
อาเจะห์ จังหวัดเพียงแห่งเดียวที่ปฏิบัติตามกฎหมายชารีอะห์ของศาสนาอิสลามในประเทศที่ประชากรส่วนมากเป็นชาวมุสลิมแห่งนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้ผ่านกฎหมายหลายฉบับที่ยึดหลักความเชื่ออันเข้มงวดซึ่งทำให้จังหวัดแห่งนี้ขัดแย้งกับส่วนที่เหลือของประเทศ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาเจะห์เหนือได้ผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าวซึ่งกำหนดด้วยว่าต้องอ่านคัมภีร์อัลกุราอานทุกคืน และได้ยื่นกฎหมายฉบับนี้ต่อฝ่ายปกครองส่วนจังหวัดเพื่อรับความเห็นชอบ
“สิ่งที่เราทำในตอนนี้จะเพียงแค่เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนประจำแบบอิสลามดั้งเดิมเท่านั้น” เฟาซาล ฮัมซาห์ สมาชิกสภานิติบัญญัติของเขตปกครองแห่งนี้ ระบุ
“ผมหวังว่านโยบายนี้จะไม่เพียงถูกบังคับใช้ในเขตปกครองอาเจะห์เหนือเท่านั้น และเป็นทั่วทั้งจังหวัดนี้”
ในคราวหน้า สมาชิกสภานิติบัญญัติจะหารือเรื่องกฎหมายห้ามชายและหญิงนั่งรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน ฮัมซาห์กล่าว
“ผมเชื่อว่าจะไม่มีอุปสรรคใดๆ (ขัดขวางกฎหมายที่ถูกเสนอไปนี้) เพราะว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนมัน” เขากล่าว
เมื่อปี 2013 สมาชิกสภานิติบัญญัติได้ห้ามไม่ให้ผู้หญิงนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ แต่กฎหมายดังกล่าวไม่ค่อยถูกบังคับใช้เท่าไหร่นัก
จังหวัดแห่งนี้ยังได้เคยผ่านกฎหมายต่อต้านการรักร่วมเพศในเดือนตุลาคม ซึ่งลงโทษใครก็ตามที่ถูกจับได้ว่ามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันด้วยการโบย 100 ครั้ง
อินโดนีเซียยอมให้จังหวัดอาเจะห์ใช้กฎหมายชารีอะห์ของศาสนาอิสลามเป็นหลักกฎหมายของตน เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพปี 2005 ที่ทำให้การเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนนาน 30 ปียุติลง