บลจ.มองทิศทางหุ้นไทยยังรับปัจจัยจากดอกเบี้ยของสหรัฐฯ คาดหุ้นไทยแตะ 1,700 จุดปีนี้ได้ แนะหาจังหวะลงทุนช่วงหุ้นปรับตัวลงโดยเฉพาะกลุ่มสื่อสาร อสังหาฯ ที่ได้ประโยชน์ช่วงดอกเบี้ยลด
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ คงแผนมาตรการควบคุมหุ้นเก็งกำไรเดิม โดยไม่มีแผนที่จะออกมาตรการใหม่ๆ หรือเพิ่มเติมเงื่อนไขในการดูแลหุ้นเก็งกำไรเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ เนื่องจากมาตรการคุมเข้มหุ้นเก็งกำไรที่ใช้ในปัจจุบันได้ออกมาใช้ได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น ที่สำคัญมาตรการดังกล่าวมี 3 ระดับในการจัดการ ขณะนี้ตลาดฯ หยิบมาใช้แค่สองระดับเท่านั้น ถือว่าเพียงพอในการควบคุมหุ้นเก็งกำไรในขณะนี้
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนของตลาดหุ้นไทยหลังจากการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เชื่อว่าหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 1,600 จุดได้ก่อนวันที่ 13 เม.ย. 58 เนื่องจากความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว และต้นไตรมาส 2/58 หุ้นกลุ่มปันผลจะกลับมามีบทบาทมากขึ้น ประกอบกับการประกาศผลการดำเนินงานของธุรกิจ บจ.ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยแตะ 1,600 จุดก่อนวันสงกรานต์ได้ไม่ยาก และยังคงมั่นใจว่าหุ้นไทยจะแตะที่ระดับ 1,700 จุดได้ภายในครึ่งแรกของปีนี้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน หากราคามีการปรับตัวขึ้นตามดัชนีหาจังหวะขายทำกำไร แล้วค่อยหาจังหวะเข้าลงทุนใหม่ช่วงดัชนีปรับตัวลง โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากมีประเด็นเรื่องของการประมูล 4G และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้รับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง
นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในตราสารทุนช่วงนี้เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่และกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็กบางตัว โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยงข้องกับพลังงานทางเลือกเพื่อรับอานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐบาล และการมีรัฐบาลที่แท้จริงในอนาคต
ส่วนดัชนีหุ้นไทยหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ย คาดว่าดัชนีหุ้นไทยในระยะสั้นแตะระดับ 1,600 จุดได้ และทั้งปีแตะที่ 1,700 จุด โดยการทำกำไรของธุรกิจ บจ.เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 10-15%
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM กล่าวว่า การที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมรอบนี้นับว่าเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อตลาดทุนไทย และดัชนีแตะที่ 1,600 จุดได้นั้นต้องมีปัจจัยบวกจากภายในประเทศเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม
