บลจ.บัวหลวงมอง “เอเชีย” เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ได้อานิสงส์ประชากรจำนวนมากมีการบริโภคจำนวนเพิ่ม ขณะที่หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียกำลังเกิดการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะเอื้อต่อการเติบโตในระยะยาว ส่งผลให้เงินลงทุนจากทั่วโลกไหลเข้าสู่ภูมิภาค แนะผู้ลงทุนที่ลงทุนหุ้นในประเทศอยู่แล้วกระจายการลงทุนในหุ้นของประเทศในภูมิภาคนี้ พร้อมกับเสนอทางเลือกในการลงทุนหุ้นเอเชียผ่าน “กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย” หรือ B-ASIA ซึ่งเปิดขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 24 ถึง 31 มีนาคมนี้
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กองทุนบัวหลวง กล่าวถึงความน่าสนใจในตลาดหุ้นเอเชียว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่โลกตะวันตกจะหยุดพักพลวัตของความรุ่งเรือง และจะเป็นเวลาของเอเชีย ตรงกับคำว่า Rising Asia หรือ Go East ที่คนตะวันตกเองก็รู้ดี ซึ่งความน่าสนใจของเอเชียมี 4 ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนว่า ทำไมถึงต้องลงทุนในเอเชีย
ปัจจัยแรก เอเชียมีการบริโภคมหาศาลที่จะผลักดันเศรษฐกิจ เนื่องจากมีประชากรกว่า 4 พันล้านคน เกินครึ่งของทั้งโลกรวมกัน เมื่อคนอยู่ที่ไหนการจับจ่ายใช้สอยจะอยู่ที่นั่น ในปี 2552 การบริโภคของชนชั้นกลางในเอเชียคิดเป็น 20% เมื่อเทียบกับการบริโภคของชนชั้นกลางทั่วโลก ซึ่งสัดส่วนชนชั้นกลางของเอเชียนั้นคาดกันว่าจะขยายเพิ่มเป็น 59% ในปี 2573 นี่คือโอกาสที่เราเห็น
ปัจจัยที่สอง เอเชียจะแข็งแกร่งกว่าด้วยพลังเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนจากทั่วโลก เพราะเขาเห็นศักยภาพของ Rising Asia โดยหลายบริษัทในเอเชียมีโอกาสเติบโตสูง แข็งแกร่ง มีบรรษัทภิบาล (CG) และมีความเป็น Global Brands ดูได้จาก GDP ของภูมิภาคเอเชีย คิดเป็นสัดส่วน 62% ของ GDP โลก และที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งคือ เอเชียเน้นการส่งออกระหว่างกัน ทำให้เป็นการลดทอนผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศทางตะวันตกในช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่ปัจจัยที่สาม หลายประเทศในเอเชียอยู่ระหว่างปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เช่น จีน เริ่มปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ยั่งยืนมากขึ้น โดยเพิ่มการขยายการบริโภคในประเทศแทนการส่งออก ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานโดยอนุญาตให้มีบุตรได้มากกว่า 1 คน อีกตัวอย่างหนึ่ง คือประเทศอินเดีย ซึ่งมีการดำเนินการหลายเรื่อง เช่น เร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ปฏิรูประบบการจัดการน้ำ สาธารณสุข และการศึกษา รวมถึงระบบภาษี
สำหรับปัจจัยสุดท้าย หุ้นเอเชียยังไม่แพงเมื่อเทียบกับโอกาสในอนาคต จากข้อมูลปี 2557 ตัวเลขการลงทุนในหุ้น เช่น Price per Book (P/B Ratio) ของตลาดหุ้นเอเชียอยู่ที่ 1.6 เท่า ซึ่งเคยสูงถึง 2.9 เท่าในปี 2536 และ 2550 ขณะที่ผลกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทในตลาดหุ้นเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในปี 2558 โดย Bloomberg คาดว่า EPS ปี 2558 จะเติบโต 11.67% และ EPS 2016 จะอยู่ที่ 10.65% ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น
“จากหลายปัจจัยดังกล่าวทำให้กองทุนบัวหลวงเล็งเห็นโอกาสการลงทุนระยะยาวในภูมิภาคเอเชีย จึงจัดตั้งกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย หรือ B-ASIA เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนในการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนหุ้นจากในประเทศ และเพื่อไปหาโอกาสจากตลาดที่มีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว”
สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย หรือ B-ASIA มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco Asian Equity Fund (Dublin) ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่บริหารจัดการโดย Invesco Global Asset Management Limited เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศในแต่ละรอบปีบัญชี เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกระหว่างวันที่ 24 ถึง 31 มีนาคมนี้ ด้วยมูลค่าขั้นต่ำในการจองซื้อครั้งแรกและครั้งต่อไปเพียง 1,000 บาท ค่าธรรมเนียมการขายไม่เกิน 1.00%
