“ธนชาตประกันภัย” โชว์ผลงานปีที่ผ่านมามีเบี้ยรับรวม 5,895 ล้านบาท กำไรกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 58 เบี้ยรับรวมโต 6,500 ล้านบาท พร้อมออก 2 ผลิตภัณฑ์คุ้มครองบ้าน และเด็ก
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2557 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างผลกำไรได้สูงสุดถึง 1,047 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า โดยเป็นการเติบโตจากการบริหารจัดการด้านการลงทุน การบริหารจัดการความเสี่ยง การบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย และมีอัตราการรักษาการต่ออายุของกรมธรรม์ จึงทำให้ในปีที่ผ่านมามีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 5895 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 4%
ทั้งนี้ ในปี 2558 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 6,500 ล้านบาท หรือโตเพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน โดยมุ่งรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่กว่า 1.3 ล้านกรมธรรม์ โดยเน้นกรมธรรม์ความคุ้มครองรถยนต์ บ้าน และประกันภัยส่วนบุคคล ด้วยแนวทางการทำธุรกิจที่ให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วยสาขากว่า 600 สาขาทั่วประเทศโดยทำงานร่วมกับทางแบงก์ รวมทั้งมีการเปิดเว็บไซต์และการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ยังดูแลในเรื่องการคุ้มครองและการให้บริการ เช่น ศูนย์ซ่อมรถยนต์ การมีเจ้าหน้าที่สำรวจภัยอยู่ทั่วประเทศที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ และการจัดกิจกรรม CSR เรื่องการป้องกันและเยียวยา
สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในปี 2558 ได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด ด้วยการออก 2 ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองบ้าน และเด็ก คือ ธนชาต Home Insurance และธนชาต Happy PA for Child โดย ธนชาต Home Insurance เป็นประกันภัยบ้านและคอนโดมิเนียมที่ให้ความคุ้มครองทุกภัยพื้นฐานที่เกิดขึ้นในบ้าน รวมถึงความคุ้มครองการโจรกรรม ซึ่งเป็นจุดเด่น เนื่องจากปัจจุบันมีอัตราการเกิดอาชญากรรมทั้งการบุกรุก ทำลายทรัพย์สิน และการถูกขโมยในอัตราที่สูง โดยผลิตภัณฑ์จะมอบความคุ้มครองสูงสุด 2 แสนบาท และหากเกิดความเสียหายต่อตัวบ้านจนไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้ก็จะมีค่าเช่าบ้านมอบให้สูงสุดถึง 25,000 บาท
ด้าน ธนชาต Happy PA for Child เป็นผลิตภัณฑ์ประกันอุบัติเหตุที่เน้นให้ความคุ้มครองกลุ่มครอบครัวที่มีบุตร ซึ่งได้ทดลองเปิดตลาดมาแล้วระยะหนึ่ง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 300% จากปีก่อน และจากการศึกษาทำวิจัยกับลูกค้ากลุ่มนี้ต่อเนื่อง ในปีนี้จึงได้พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ด้วยการขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมจาก 3 โรค เพิ่มเป็น 4 โรคที่เด็กเป็นบ่อย ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก โรคอาหารเป็นพิษ และโรคลำไส้อักเสบแบบเฉียบพลัน โดยจะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้สูงสุดครั้งละ 5 หมื่นบาท ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการรักษา ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลก็ยังสามารถเบิกได้
นอกจากนี้ ความพิเศษของกรมธรรม์จะคุ้มครองพ่อหรือแม่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ด้วยผลตอบแทนสูงสุดถึง 2 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้ทันที 1 ล้านบาท และดูแลบุตรต่อเนื่องให้อีก 5 ปี แบ่งจ่ายเป็นปีละ 2 แสนบาท เบี้ยประกันภัยเพียงวันละ 4 บาทเท่านั้น ซึ่งมั่นใจว่าตลาดจะให้การตอบรับที่ดีกับผลิตภัณฑ์นี้อย่างแน่นอน
