xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.ไทยพาณิชย์คาดหุ้นไทยปีนี้แตะ 1,800 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.ไทยพาณิชย์มองหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกน่าลงทุน คาดดัชนีปีนี้แตะ 1,800 จุด เตรียมออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์รับจังหวะลงทุน เน้นกลุ่มก่อสร้าง ท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน

นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมีแผนออกกองทุนประเภททริกเกอร์หุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศนับจากนี้ไปจนถึงปลายปีนี้ประมาณ 5-6 กองทุน โดยแผนการลงทุนดังกล่าวจะเน้นจับจังหวะของดัชนีเป็นหลัก ส่วนเป้าหมายผลตอบแทนของทริกเกอร์จะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 6-7% โดยผลตอบแทนจะแบ่งจ่ายสองครั้งตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เฉลี่ยอายุกองทุนที่จะเสนอขายที่ 6 เดือนถึง 1 ปี ทั้งนี้ เชื่อว่านักลงทุนยังคงให้ความสนใจในการเข้าลงทุนในกองทุนดังกล่าวค่อนข้างมาก

สำหรับภาวการณ์การลงทุน ฝ่ายวิจัยหลายแห่งต่างมองดัชนีหุ้นไทยปีนี้มีโอกาสแตะสูงถึง 1,800 จุด ด้วยปัจจัยบวกภายในประเทศหลายปัจจัยด้วยกัน แต่ในมุมมองของฝ่ายวิจัยบริษัทยังคงประเมินสถานการณ์ปัจจัยบวกภายในประเทศแบบมีความกังวล โดยเฉพาะในเรื่องการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ว่าจะเป็นไปตามที่คาดการณ์หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลถึงดัชนีว่าจะแตะระดับ 1,800 จุดตามที่หลายฝ่ายมองหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหลักทรัพย์เด่นที่จะช่วยให้กองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยแตะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงการสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้ในระดับสูง ยังคงเป็นหุ้นกลุ่มก่อสร้าง กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของประเทศ และหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นหลัก

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในปีนี้ เน้นเข้าลงทุนเมื่อราคาอ่อนตัว และขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้น เลี่ยงถือครองหุ้นแบบระยะยาว เพราะทิศทางหุ้นไทยปีนี้มีความผันผวนพอสมควร

“หุ้นไทยยังคงน่าสนใจ แต่การเข้าลงทุนควรเลือกการลงทุนอย่างรอบครอบ เน้นลงทุนที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนภายในประเทศและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น สาเหตุที่ทริกเกอร์ของไทยพาณิชย์เข้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทเลือกหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากแผนกระตุ้นภายในประเทศเป็นหลัก ทำให้ทริกเกอร์หุ้นไทยเข้าเป้าหมายก่อนกำหนดอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ มีแนวโน้มการไหลเข้าของเม็ดเงินที่มาจากการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญของประเทศญี่ปุ่น หรือ (GPIF : Government Pension Investment Fund) ที่มีแผนขยายเพดานการลงทุนในตราสารทุนมากขึ้น จากเดิมที่ลงทุนในตราสารทุนอยู่ที่ระดับ 17% เป็น 25% โดยทุกๆ 1% ของการขยายเพดานลงทุนคิดเป็นเม็ดเงินลงทุนประมาณ 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นเม็ดเงินลงทุนที่จะเข้ามาในระบบตลาดทุนทั่วโลกที่สูงมาก

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวจะไหลเข้าไปยังประเทศพัฒนาแล้วเป็นหลัก โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย ส่วนตลาดทุนไทยถือเป็นอีกหนึ่งตลาดทุนที่นักลงทุนดังกล่าวจะนำเงินเข้ามาลงทุน เพียงแต่ไม่สามารถประเมินเม็ดเงินลงทุนที่จะไหลเข้ามาได้ในขณะนี้

ส่วนแผนการลงทุนของนักลงทุนนั้นจะผ่านกองทุนภายในประเทศเป็นหลัก เพราะเชื่อว่านักลงทุนดังกล่าวไม่เสี่ยงลงทุนเองหากไม่มีความชำนาญในการลงทุนของตลาดประเทศนั้นๆ ในส่วนของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ล่าสุดได้มีการเจราจากับนักลงทุนญี่ปุ่น 2-3 รายด้วยกัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปแผนการลงทุนว่าจะเป็นรูปแบบใด


กำลังโหลดความคิดเห็น