หุ้นยุโรป-เอเชียไปต่อไทยอืด ฝรั่งรอลงทุนภาครัฐ

บลจ.กรุงไทยเผย หุ้นเอเชีย-ยุโรปปีนี้ไปต่อ หลังยุโรปทำ QE ดันเงินไหลเข้าระบบมากขึ้น แต่ไทยอืดเหตุราคาเริ่มแพง ฝรั่งลังเลรอจังหวะลงทุนเพิ่ม ระบุญี่ปุ่น-จีน-อินโดฯ ได้เปรียบกว่า พร้อมแนะบริหารความเสี่ยงค่าเงินลดความผันผวนหากต้องลงทุนต่างประเทศ

นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้โอกาสการลงทุนหากมองโดยเปรียบเทียบทั่วโลกบริษัทยังชอบหุ้นเอเชียซึ่งรวมทั้งญี่ปุ่นและจีนรวมถึงอินโดนีเซียเอง ยุโรปก็ยังน่าสนใจโดยเฉพาะหลังจากมีการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกมาซึ่งขนาดในการทำก็ถือว่ามากพอสมควร ในส่วนของสหรัฐฯ ตลาดอาจจะปรับตัวขึ้นมามากความน่าสนใจก็จะลดลงไป

ส่วนหุ้นไทยในวันนี้ต้องถือว่าไม่ถูกแล้วเมื่อเทียบกับภูมิภาค โดยคาดว่าเงินจากมาตรการ QE ของยุโรปบางส่วนที่ไหลออกนอกยุโรปคงจะเลือกลงทุนไปในภูมิภาคหรือประเทศหลักๆ ที่น่าสนใจก่อนมากกว่าอาจจะยังไม่ได้ไหลเข้ามาลงทุนในไทยมากนัก

อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ นโยบายการเงินที่แตกต่างกันนั้นทำให้การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวต่างกันด้วย ในส่วนของกองทุนที่ไปลงทุนในยุโรปและญี่ปุ่นในช่วงนี้ของบริษัทเองก็มีการปิดความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้เพราะค่าเงินยูโรและเยนมีแนวโน้มอ่อนค่าลง แต่ในส่วนของกองทุนที่ไปลงทุนในสหรัฐฯ ในสกุลเงินดอลลาร์ไม่ได้ปิดก็ไม่เป็นไร คงต้องขึ้นกับสถานการณ์ของอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละช่วงด้วยในลักษณะของการบริหารความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนตามสภาพการณ์ (Dynamic Hedge)

นายวีระ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าใจกับตลาดไทยก็ยังลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นไทย แต่บางส่วนที่ลงทุนมาตั้งแต่ช่วงวิกฤตปี2552 ถึงปัจจุบันมีกำไรจากหุ้นแล้วประมาณ 300% จากสิ้นปี 2551 ดัชนีหุ้นไทยอยู่ประมาณ 400 จุด ขึ้นมาระดับ 1,600 จุด นักลงทุนบางส่วนก็ขายหุ้นทำกำไรออกไปเช่นกัน โดยเห็นแนวโน้มดังกล่าวต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วง พ.ค. 2556 เป็นต้นมา ทำให้ระดับการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันค่อนข้างน้อยใกล้เคียงกับในช่วงวิกฤตที่เคยลงไปเหลือประมาณ 60,000 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้เงินที่ออกไปคงไม่ได้รีบกลับเข้ามาเนื่องจากปัจจัยในประเทศก็ยังไม่ชัดเจนนัก

“นักลงทุนต่างชาติอาจจะกำลังรออะไรที่ชัดเจนกว่านั้น ในเรื่องของแผนการลงทุนของภาครัฐที่ประกาศออกมานั้นเริ่มลงทุนได้จริงมากน้อยแค่ไหน เร็วแค่ไหน ถ้ามีอะไรที่เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นก็มีโอกาสที่เงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้งได้เช่นกัน”

ส่วนปัจจัยการลงทุนในประเทศปีนี้ เศรษฐกิจไทยซึ่งจะกระทบต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนคาดว่าน่าจะปรับตัวได้ดีกว่าปี 2557 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองไตรมาสแรกของปี เนื่องจากฐานครึ่งปีแรกของปี 2557 ที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ต่ำ โดยประเมินว่าตลาดหุ้นไทยปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 1,680 จุด