เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนเคยสงสัยใช่ไหมว่าเวลาซื้อประกันภัยรถยนต์จะต้องมีคำถามตามมาเสมอว่า จะซ่อมอู่ หรือ ซ่อมห้างดี เบี้ยประกันแบบไหนดีกว่า และถูกกว่ากัน ที่สำคัญเวลาซ่อมล่ะแบบไหนจะดีกว่า.......นั่นสิแบบไหนดีกว่า วันนี้คอลัมมน์"คลินิกกองทุนรวม" จะมาช่วยไขข้อสงสัยในประเด็นนี้กัน
ซ่อมห้าง
การซ่อมห้าง หรือเรียกอีกแบบนั่นก็คือการซ่อมศูนย์ เป็นการซ่อมที่คนทั่วไปส่วนใหญ่มั่นใจในการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม เทคโนโลยีต่างๆที่เกี่ยวกับการซ่อมแซมตัวรถยนต์ รวมไปถึงอะไหล่ของแท้ที่ส่งตรงมาจากค่ายรถยนต์ ขณะเดียวกันการซ่อมห้างนั้นส่วนใหญ่จะใช้การเปลี่ยนอะไหล่มากกว่าการซ่อมแซม เช่น กันชนหน้า หลัง เป็นต้น
ส่วนการเข้าคิวรอซ่อมนั่นก็เป็นอีกประเด็นที่ทำให้ผู้เอาประกันภัยหลายคนหันมาใช้บริการอู่ซ่อมรถแทน เนื่องจากศูนย์บริการรับซ่อมที่เป็นของบริษัทรถยนตร์หลายแห่งต้องรอคิวเข้ารับการซ่อมเป็นเวลานาน บางคนถึงต้องรอคิวซ่อมนานหลายเดือนเลยทีเดียว
ซ่อมอู่
การซ่อมอู่นั่นแน่นอนว่าราคาจะค่อนข้างถูกกว่าซ่อมห้าง ในขณะเดียวกันอู่ซ่อมก็มีมากกว่าศูนย์บริการ ทำให้ประหยัดเวลาในการเข้าซ่อม นอกจากนี้อู่บางแห่งจะรับซ่อมรถยนต์เฉพาะยี่ห้อนั่น หรือรับซ่อมเฉพาะรถบางประเภท เช่น รถกะบะ หรือรถเก๋ง และบางอู่ก็รับซ่อมแต่รถยุโรป เป็นต้น ทำให้อู่บางแห่งมีความชำนาญในการซ่อมค่อนข้างสูง
ถ้าประกันเราซ่อมอู่ แต่อยากไปซ่อมห้างบ้างล่ะ
แน่นอนว่าเราจะต้องเสียค่าส่วนต่างเอง โดยส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันภัยจะประเมินราคาซ่อมให้ก่อน และเราจะต้องเสียค่าส่วนต่างเองให้กับศูนย์บริการที่เราเอาไปซ่อม ยกตัวอย่างเช่น ศูนย์ตีราคาค่าซ่อมมาที่ 5,000 บาท ประกันเคลมได้ 3,500 บาท เราจะต้องเสียส่วนต่างในกรณีนี้ 1,500 บาทนั้นเอง
เบี้ยประกัน
สำหรับเบี้ยประกันระหว่างซ่อมห้าง และซ่อมอู่ แน่นอนว่าซ่อมห้างจะต้องมีราคาสูงกว่าซ่อมอู่ แต่จะต่างกันมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่จำนวนปีรถยนต์ ความคุ้มครอง และจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ได้ตกลงไว้ในกรมธรรม์ และที่สำคัญกว่านั้นคือการซ่อมห้างจะมีอยู่ในประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และรถต้องมีอายุไม่เกิน 3 ปีเท่านั้น
แล้วซ่อมแบบไหนดีกว่ากัน
การที่จะให้ผู้เขียนฟันธงเลยนั้นคงจะยาก เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเพราะซ่อมห้างก็ใช่ว่าจะดี ถ้าศูนย์บางแห่งก็มีปัญหาเรื่องการซ่อมเหมือนกัน
ในขณะอู่ส่วนใหญ่มีการปรับมาตรฐานการซ่อม พร้อมทั้งมีระบบการรับประกันคุณภาพงานให้ทัดเทียมกับศูนย์ใหญ่ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามผู้เขียนอยากจะแนะนำให้ผู้ซื้อประกันควรศึกษาเบี้ยประกันภัย ความคุ้มครอง เงื่อนไข และการรับประกันภัยของแต่ละบริษัทประกันภัยรถยนต์ให้ดี รวมถึงศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์บริการและอู่ที่ให้บริการให้ดี เพื่อให้แน่ใจว่าประกันที่เราซื้อจะไม่มีปัญหาเวลาเคลมในอนาคต
เช่นเคยและเหมือเดิมตลอดนั่นก็คือ....ผู้อ่านท่านใดมีคำถามก็สามารถส่งคำถามมาได้ที่ mgrfund@gmail.com ทางทีมงานจะทยอยตอบคำถามให้ โดยคำตอบนั้นอาจจะต้องใช้เวลาสักนิด เนื่องจากทีมงานได้ส่งคำถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น บลจ. หรือบริษัทประกัน รวมถึงผู้เชียวชาญมาช่วยไขข้อข้องใจกันคะ