ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น “มิตซูบิชิ-นิสสัน” ฟันธง! ตลาดรถไทยร่วงหนัก คาดหัวทิ่มเหลือแค่ 8.5 แสนคัน จากที่หลายฝ่ายประเมิน 9 แสนคัน หวังปิกอัพ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” โฉมใหม่ช่วยฉุดยอดขาย เผยปลายปีหน้าเตรียมส่ง “ปาเจโร่ สปอร์ต” เสริมทัพ ขณะที่นิสสันสเปิดตัวเอสยูวี “เอ็กซ์-เทรล ใหม่” ตั้งเป้าขาย 8,000 คันต่อปี
นายมาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปีนี้ค่อนข้างชะลอตัวลงมาก โดยช่วง 10 เดือนแรกที่ผ่านมาลดลงกว่า 36% และในส่วนของมิตซูบิชิตกลงกว่า 40% เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และผลกระทบจากโครงการรถคันแรก แต่การเปิดตัวปิกอัพ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” โฉมใหม่ในวันนี้ (18 พ.ย.) จะช่วยผลักดันให้ยอดขายประจำปีงบประมาณ 2557 (เม.ย. 2256 - มี.ค.2557) ปรับตัวดีขึ้น
“ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยประจำปี 2557 ในช่วงที่เหลือแม้ดูมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยอดขาย 10 เดือนที่ผ่านมาทำได้เพียงกว่า 6.8 แสนคัน จึงไม่น่าจะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายประเมินไว้ล่าสุด 9 แสนคัน จากปีก่อนหน้าทำได้มากกว่า 1.2 ล้านคัน โดยมิตซูบิชิเชื่อว่าปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 8.5 แสนคัน ส่วนการเปิดตัวปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ ที่จะเริ่มส่งมอบได้ช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้ จะช่วยให้ระยะเวลา 4 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณมิตซูบิชินี้ สามารถทำยอดขายได้ตามเป้ากว่า 7.2 หมื่นคัน จากปีที่แล้วที่ทำได้ 8.5 หมื่นคัน หรือลดลงจากเดิมประมาณกว่า 10% ซึ่งถือว่าชะลอตัวดีกว่าภาพรวมตลาด และในกลุ่มปิกอัพคาดว่าจะทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 12% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 9%”
ในส่วนของทิศทางตลาดในปีหน้ายังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่เชื่อว่าจะมีการเติบโตเป็นบวกแน่นอน ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลกระทบเชิงบวกหรือลบ อยู่ที่การฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจจะเร็วแค่ไหน และยังหวังเรื่องการท่องเที่ยวที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง ขณะที่ยอดขายรถมิตซูบิชิน่าจะมีการขยายตัวเช่นกัน เพราะมีการเปิดตัวปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นใหม่สู่ตลาดแห่งแรกในโลก ซึ่งไทยเป็นฐานการผลิตหลักเพื่อทำตลาดในประเทศและส่งออก 150 ประเทศทั่วโลก รวมถึงช่วงปลายปีหน้าจะมีการเปิดตัวรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต” โฉมใหม่สู่ตลาดเช่นกัน
สำหรับปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ ที่ ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษ์ใหม่หมด และให้ความสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ยังได้วางเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ไมเวค วีจี เทอร์โบ อลูมินัม อัลลอย บล็อก ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้า เบื้องต้นจะเปิดจองในรุ่นดับเบิล แค็บ พลัส และดับเบิล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 791,000 - 1,008,000 บาท พร้อมรับข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว และรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง สำหรับลูกค้าที่จองรถในระหว่างวันที่ 18 พ.ย. - 31 ธ.ค.นี้ และยังมเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ รวมถึงเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรเป็นอีกทางเลือกด้วย
“ในส่วนของโครงการอีโคคาร์ เฟส2 มิตซูบิชิได้รับอนุมัติการลงทุนจากบีโอไอเรียบร้อย ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงศึกษาภายในองค์กร ที่จะผลิตรถรุ่นไหนที่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ แต่คงจะไม่ใช่ในอนาคตอันไกล้นี้ และในส่วนของรถยนต์อีโคคาร์โครงการแรกอย่าง มิตซูบิชิ มิราจ และแอททราจ จะมีการไมเนอร์เชนจ์ก่อน จากนั้นจึงจะเป็นการออกโฉมใหม่ในอีโคคาร์ เฟส2” นายอูเอะกิกล่าว
ด้านนายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ตลาดรถยนต์เมืองไทยกำลังปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจาก 1-2 ปีที่ผ่านมามีนโยบายบางอย่างดึงความต้องการตลาดล่วงหน้าไป คาดว่าจะปิดยอดขายรวม 8.5 แสนคัน ต่ำกว่าที่ประเมินกันไว้ช่วงต้นปี ในส่วนของนิสสันกำลังพิจารณาปรับเป้าการขายใหม่แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด บริษัทได้เปิดตัวโฉมใหม่ของ “เอ็กซ์-เทรล” มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ CVT มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ แบ่งขาย 4 รุ่นย่อย ราคา 1.172 - 1.551 ล้านบาท พร้อมส่งมอบตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
เอ็กซ์-เทรล ใหม่ เป็นเอสยูวีที่ผลิตในประเทศไทย เพราะบริษัทเชื่อมั่นว่าคนไทยชอบรถที่ผลิตในเมืองไทย ด้วยสุดยอดคุณภาพ และราคาที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ บวกกับแคมเปญในช่วงเปิดตัวทั้ง ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และฟรีค่าบำรุงรักษาฟรี 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร คาดว่าจะได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยตั้งเป้ายอดขาย 8,000 คันต่อปี และยังไม่มีแผนการผลิตเพื่อส่งออก
“ตลาดเอสยูวีมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ถ้ารวมทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง ปีหน้าจะมียอดขายรวม 60,000 - 70,000 คัน โดยนิสสันหวังครองส่วนแบ่งการตลาด 25% (รวมจู๊คกับเอ็กซ์เทรล)”
สำหรับเอสยูวีรุ่น “จู๊ค” ซึ่งเป็นรถที่นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย หลังเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนมกราคาที่ผ่านมา นับจนถึงเดือนตุลาคม ทำยอดขายได้เกือบ 10,000 คัน แต่กระนั้นบริษัทยังไม่มีแผนที่จะขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์รุ่นนี้ในเมืองไทย
นายมาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปีนี้ค่อนข้างชะลอตัวลงมาก โดยช่วง 10 เดือนแรกที่ผ่านมาลดลงกว่า 36% และในส่วนของมิตซูบิชิตกลงกว่า 40% เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และผลกระทบจากโครงการรถคันแรก แต่การเปิดตัวปิกอัพ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” โฉมใหม่ในวันนี้ (18 พ.ย.) จะช่วยผลักดันให้ยอดขายประจำปีงบประมาณ 2557 (เม.ย. 2256 - มี.ค.2557) ปรับตัวดีขึ้น
“ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยประจำปี 2557 ในช่วงที่เหลือแม้ดูมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยอดขาย 10 เดือนที่ผ่านมาทำได้เพียงกว่า 6.8 แสนคัน จึงไม่น่าจะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายประเมินไว้ล่าสุด 9 แสนคัน จากปีก่อนหน้าทำได้มากกว่า 1.2 ล้านคัน โดยมิตซูบิชิเชื่อว่าปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 8.5 แสนคัน ส่วนการเปิดตัวปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ ที่จะเริ่มส่งมอบได้ช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้ จะช่วยให้ระยะเวลา 4 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณมิตซูบิชินี้ สามารถทำยอดขายได้ตามเป้ากว่า 7.2 หมื่นคัน จากปีที่แล้วที่ทำได้ 8.5 หมื่นคัน หรือลดลงจากเดิมประมาณกว่า 10% ซึ่งถือว่าชะลอตัวดีกว่าภาพรวมตลาด และในกลุ่มปิกอัพคาดว่าจะทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 12% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 9%”
ในส่วนของทิศทางตลาดในปีหน้ายังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่เชื่อว่าจะมีการเติบโตเป็นบวกแน่นอน ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลกระทบเชิงบวกหรือลบ อยู่ที่การฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจจะเร็วแค่ไหน และยังหวังเรื่องการท่องเที่ยวที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง ขณะที่ยอดขายรถมิตซูบิชิน่าจะมีการขยายตัวเช่นกัน เพราะมีการเปิดตัวปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นใหม่สู่ตลาดแห่งแรกในโลก ซึ่งไทยเป็นฐานการผลิตหลักเพื่อทำตลาดในประเทศและส่งออก 150 ประเทศทั่วโลก รวมถึงช่วงปลายปีหน้าจะมีการเปิดตัวรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต” โฉมใหม่สู่ตลาดเช่นกัน
สำหรับปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ ที่ ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษ์ใหม่หมด และให้ความสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ยังได้วางเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ไมเวค วีจี เทอร์โบ อลูมินัม อัลลอย บล็อก ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้า เบื้องต้นจะเปิดจองในรุ่นดับเบิล แค็บ พลัส และดับเบิล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 791,000 - 1,008,000 บาท พร้อมรับข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว และรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง สำหรับลูกค้าที่จองรถในระหว่างวันที่ 18 พ.ย. - 31 ธ.ค.นี้ และยังมเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ รวมถึงเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรเป็นอีกทางเลือกด้วย
“ในส่วนของโครงการอีโคคาร์ เฟส2 มิตซูบิชิได้รับอนุมัติการลงทุนจากบีโอไอเรียบร้อย ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงศึกษาภายในองค์กร ที่จะผลิตรถรุ่นไหนที่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ แต่คงจะไม่ใช่ในอนาคตอันไกล้นี้ และในส่วนของรถยนต์อีโคคาร์โครงการแรกอย่าง มิตซูบิชิ มิราจ และแอททราจ จะมีการไมเนอร์เชนจ์ก่อน จากนั้นจึงจะเป็นการออกโฉมใหม่ในอีโคคาร์ เฟส2” นายอูเอะกิกล่าว
ด้านนายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ตลาดรถยนต์เมืองไทยกำลังปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจาก 1-2 ปีที่ผ่านมามีนโยบายบางอย่างดึงความต้องการตลาดล่วงหน้าไป คาดว่าจะปิดยอดขายรวม 8.5 แสนคัน ต่ำกว่าที่ประเมินกันไว้ช่วงต้นปี ในส่วนของนิสสันกำลังพิจารณาปรับเป้าการขายใหม่แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด บริษัทได้เปิดตัวโฉมใหม่ของ “เอ็กซ์-เทรล” มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ CVT มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ แบ่งขาย 4 รุ่นย่อย ราคา 1.172 - 1.551 ล้านบาท พร้อมส่งมอบตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
เอ็กซ์-เทรล ใหม่ เป็นเอสยูวีที่ผลิตในประเทศไทย เพราะบริษัทเชื่อมั่นว่าคนไทยชอบรถที่ผลิตในเมืองไทย ด้วยสุดยอดคุณภาพ และราคาที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ บวกกับแคมเปญในช่วงเปิดตัวทั้ง ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และฟรีค่าบำรุงรักษาฟรี 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร คาดว่าจะได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยตั้งเป้ายอดขาย 8,000 คันต่อปี และยังไม่มีแผนการผลิตเพื่อส่งออก
“ตลาดเอสยูวีมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ถ้ารวมทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง ปีหน้าจะมียอดขายรวม 60,000 - 70,000 คัน โดยนิสสันหวังครองส่วนแบ่งการตลาด 25% (รวมจู๊คกับเอ็กซ์เทรล)”
สำหรับเอสยูวีรุ่น “จู๊ค” ซึ่งเป็นรถที่นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย หลังเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนมกราคาที่ผ่านมา นับจนถึงเดือนตุลาคม ทำยอดขายได้เกือบ 10,000 คัน แต่กระนั้นบริษัทยังไม่มีแผนที่จะขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์รุ่นนี้ในเมืองไทย
