บลจ.ไทยพาณิชย์เตรียมเงินกว่า 1,278 ล้านบาทจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ 9 กอง พร้อมชูกองทุน POPF มาแรงสุด จ่ายรวมทั้งปี 1.0433 บาทต่อหน่วย นักลงทุนเฮรับเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 กำหนดการปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 นี้
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารงาน รวมจำนวน 9 กองทุน คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,278 ล้านบาท โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งมีกำหนดการปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 นี้
ทั้งนี้ ประกอบด้วยกองทุนอสังหาฯ ประเภทศูนย์การค้า จำนวน 1 กองทุน คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ซึ่งลงทุนในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซารัชดา-พระราม 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 โครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า และโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.3200 บาทต่อหน่วย (สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ต.ค. 57-31 ธ.ค. 57) โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 9.3869 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 6 มี.ค. 49) ทั้งนี้ CPNRF ยังมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ที่ 36,727.11 ล้านบาท (วันที่ 21 มกราคม 2558) ณ ราคาปิดตลาดที่ 16.60 บาทต่อหน่วยลงทุน ซึ่งสูงสุดในหมวดธุรกิจกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
โดยในส่วนของกองทุนอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงาน บลจ.มีการจ่ายเงินปันผลอีกจำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพรม์ออฟฟิศ (POPF) ที่ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2 อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์ จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2193 บาทต่อหน่วย (สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 16 ต.ค. 57-31 ธ.ค. 57 รวมทั้งสิ้น 77 วัน) โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 3.7818 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 7 ก.ย. 54) ทั้งนี้ POPF ได้จ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 57 รวมทั้งสิ้น 1.0433 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเมื่อพิจารณาถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนในอาคารสำนักงาน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ม.ค. 57)
นอกจากนี้ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) ที่ลงทุนในอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2000 บาทต่อหน่วย (สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ต.ค. 57-31 ธ.ค. 57) ซึ่งที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 1.8010 บาทต่อหน่วยลงทุน (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 14 ก.พ. 56) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) ซึ่งลงทุนกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1500 บาทต่อหน่วย (สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ต.ค. 57-31 ธ.ค. 57) โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 0.45 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 28 ส.ค. 57)
นายสมิทธ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงแรม เรามีการจ่ายเงินปันผลอีกจำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) ที่ลงทุนในโรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.3072 บาทต่อหน่วย (สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ต.ค. 57-31 ธ.ค. 57) โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 1.0314 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 15 พ.ย. 56) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SPWPF) ที่ลงทุนในโครงการโรงแรมศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2655 บาทต่อหน่วย (สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ต.ค. 57-31 ธ.ค. 57) ซึ่งที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 1.0299 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 19 ก.พ. 57)
ส่วนกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า มีจำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) จ่ายปันผลในอัตรา 0.2249 บาทต่อหน่วย (สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ต.ค. 57-31 ธ.ค. 57 และกำไรสะสม) ซึ่งที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 0.9678 บาทต่อหน่วยลงทุน (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 22 พ.ค. 57) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.2317 บาทต่อหน่วย (สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ต.ค. 57-31 ธ.ค. 57) ซึ่งที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 0.4314 บาทต่อหน่วยลงทุน (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 24 พ.ย. 57)
นอกจากนี้ยังมีกองทุนอสังหาฯ ประเภทคอมมูนิตีมอลล์ จำนวน 1 กองทุน คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) ที่ลงทุนในโครงการเดอะ คริสตัล (The Crystal) และโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ หรือซีดีซี จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1775บาทต่อหน่วย (สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ต.ค. 57-31 ธ.ค. 57) โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 1.1391 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 15 พ.ย. 56)