บลจ.ไทยพาณิชย์เตรียมจ่ายปันผลกองอสังหาฯ 9 กองทุน รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,235 ล้านบาท มองการลงทุนเริ่มขยายตัวมากขึ้น ความสงบทางการเมืองยังส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว ทำให้กองอสังหาฯ ยังน่าลงทุน
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารงาน รวมจำนวน 9 กองทุน คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,235 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์รอบแรกในวันที่ 24 พ.ย. 57 จำนวน 6 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงานจำนวน 2 กอง ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่า อสังหาริมทรัพย์ไพรม์ออฟฟิศ (POPF) สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ก.ค. 57 - 15 ต.ค. 57 จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.3000 บาทต่อหน่วย และจ่ายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ก.ค. 57-30 ก.ย. 57 จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1500 บาทต่อหน่วย
ขณะที่จ่ายกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงแรมจำนวน 2 กอง สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 เม.ย. 57-30 ก.ย. 57 ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.0852 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SPWPF) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2188 บาทต่อหน่วย
ส่วนกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้าจำนวน 2 กองทุน คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ก.ค. 57-30 ก.ย. 57 จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2357 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 24 มิ.ย. 57-30 ก.ย. 57 จ่ายเงินปันผลครั้งแรกในอัตรา 0.1997 บาทต่อหน่วย
สำหรับการจ่ายเงินปันผลรอบที่ 2 ในวันที่ 26 พ.ย. 57 สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 ก.ค.57-30 ก.ย. 57 จะมี 3 กองทุน คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.3230 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) จ่ายปันผลในอัตรา 0.1960 บาทต่อหน่วย และสุดท้ายกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพยคริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1928 บาทต่อหน่วย
นายสมิทธ์กล่าวว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมามีการปรับตัวที่ดีขึ้น และคาดการณ์ว่าการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและนโยบายการลงทุนของภาครัฐ รวมถึงการฟื้นตัวของภาคเอกชนจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 ไปจนถึงปี 2558 ให้ขยายตัวได้มากขึ้น โดยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคทำให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนในเศรษฐกิจมากขึ้น ดึงดูดเงินลงทุนของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งความสงบทางการเมืองน่าจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว จึงเห็นว่ากองทุนอสังหาฯ น่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนได้ต่อไป