TMAN เดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง เล็งกลุ่มภูมิภาคอาเซียนน่าสนใจ พร้อมเดินหน้าแปลงสินทรัพย์ในกลุ่มไทคอนเดิม หรือตั้งกองใหม่ที่แตกต่างออกไป มั่นใจในศักยภาพของสินทร์พย์ที่ให้ผลตอบแทนดี ไม่ต้องแข่งยิลด์กับกองทุนอื่น เหตุเป็นการลงทุนในสินทรัพย์คนละประเภทกัน
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล กรรมการผู้จัดการ บจ.ไทคอน แมนเนจเม้นท์ (TMAN) เปิดเผยว่า ภาพรวมของบริษัทในปีนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารผ่านกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ขึ้นอีกประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท แต่หากมีโอกาสที่ดีสินทรัพย์ที่จะเข้ามาบริหารก็อาจจะมากกว่าที่ตั้งใจไว้ได้เช่นกัน ทั้งในส่วนของแผนการเพิ่มทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) ซึ่งปัจจุบันก็มีการพิจารณาสินทรัพย์อยู่เช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นคลังสินค้าในภาคตะวันออก และภาคกลาง
รวมถึงแผนการแปลงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มไทคอนที่เป็นรูปแบบเดิมมาเป็นรูปแบบของ REIT ด้วยเช่นกัน แต่ยังคงรอความชัดเจนในแง่ของกฎหมายต่างๆ ให้ชัดเจนก่อน ซึ่งหากเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุนบริษัทก็พร้อมจะแปลงเช่นกัน ตลอดจนแผนการจัดตั้ง REIT ที่ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นเพิ่มเติม ซึ่งยังคงเน้นไปที่สินทรัพย์ในเชิงพาณิชย์เป็นสำคัญ
โดยในเบื้องต้นการรุกธุรกิจ REIT ของบริษัทคงเน้นในประเทศเป็นหลักก่อน แต่ก็มองโอกาสในต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนด้วยเช่นกัน แต่ตรงนั้นทางกลุ่มไทคอนอาจจะเป็นคนนำในการรุกธุรกิจเป็นหลัก แต่บริษัทเองก็มีความพร้อมถ้ามีจังหวะที่ดีก็อาจจะไปหาโอกาสในอาเซียนเพื่อต่อยอดธุรกิจได้เช่นกัน
นายอมรยังกล่าวอีกว่า บริษัทคงไม่ไปแข่งอัตราผลตอบแทนของกอง REIT กับใคร ตรงนั้นขึ้นกับลักษณะของสินทรัพย์แต่ละประเภทมากกว่า ไม่ได้คิดว่ากอง REIT ที่ออกมาใหม่ต้องเสนออัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อจูงใจนักลงทุนเพราะผลตอบแทนก็ต้องดูบนองค์ประกอบหลายอย่างด้วยเช่นกัน ประเภทสินทรัพย์ ลักษณะการลงทุน อายุโครงการ การกู้ยืมของกอง เป็นต้น
นักลงทุนจะดูแต่อัตราผลตอบแทนเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ บริษัทเองก็มั่นใจว่าจะนำเสนอกอง REIT ที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนได้ แต่คงไม่ไปแข่งกับใคร ส่วนทิศทางดอกเบี้ยของไทยที่เริ่มมีการมองกันว่าอาจจะขยับขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลังนั้นคงไม่ได้กดดันให้กอง REIT ต้องขยับผลตอบแทนตามแต่ประการใด
“ดอกเบี้ยในประเทศยังไม่แน่ว่าปีนี้จะขึ้นได้หรือเปล่าเพราะบางกลุ่มก็มองว่าอาจจะไม่ขึ้น และถึงขึ้นอาจจะไปขึ้นแค่ฝั่งดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ดอกเบี้ยเงินฝากอาจไม่ขยับมากนัก ผลตอบแทนของกอง REIT ยังไงก็ยังดีกว่าและน่าสนใจกว่าอยู่ดี จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นตลาดที่นักลงทุนให้การตอบรับต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีกอง REIT รวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) มีแผนจะออกอีกหลายกองก็ตาม”