xs
xsm
sm
md
lg

เลขาฯ กบข. มองจีดีพีปีหน้าเติบโตได้ 3-4% ตลาดหุ้นแนวโน้มยังดี เหมาะลงทุนระยะยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กบข.คาดปีนี้ผลตอบแทนลงทุนอยู่ที่ 6% สูงกว่าปีก่อน มองจีดีพีปีหน้าเติบโตได้ 3-4% ขณะที่มองทิศทางดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรมีโอกาสลดลง ซึ่งการลงทุนในพันธบัตรมีสัดส่วนกว่า 60% ของพอร์ตรวมทั้งหมด ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 58 แนวโน้มดี โดยคาดจะเห็นดัชนีฯ แกว่งตัว และเป็นจังหวะที่สามารถทำกำไรได้ เหมาะสำหรับลงทุนระยะยาว

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า คาดปีนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนของ กบข.จะอยู่ที่ราว 6% สูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ราว 4.5% ขณะที่ปี 58 คาดผลตอบแทนจากการลงทุน กบข. มีแนวโน้มต่ำกว่าปีนี้ แต่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ 2-3% เพราะคาดเศรษฐกิจเติบโตในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปไม่หวือหวา

โดยปี 58 คาดการณ์จีดีพีเติบโต 3-4% ขณะที่มองทิศทางดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรมีโอกาสลดลง ซึ่งการลงทุนในพันธบัตรมีสัดส่วนกว่า 60% ของพอร์ตรวมทั้งหมด

ทั้งนี้ กบข.มีสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 703,809 ล้านบาท (ณ 30 พ.ย.57) ผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 6.9% ต่อปี และผลตอบแทนของปี 57 (นับถึง 16 ธ.ค.57) อยู่ที่ 5.9% สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำธนาคาร และอัตราเงินเฟ้อในระยะเวลาเดียวกัน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.7% และ 1.1% ตามลำดับ

ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 58 แนวโน้มดี โดยคาดจะเห็นดัชนีฯ แกว่งตัว และเป็นจังหวะที่สามารถทำกำไรได้ หลังในช่วงท้ายปีดัชนีฯ มีการปรับตัวลดลงแรงวันเดียวกว่า 138 จุด ทำให้คาดยังมีอัปไซด์ รวมถึงคาดผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่ดี และเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองการลงทุนระยะยาว

ขณะเดียวกัน คาดเศรษฐกิจไทยปี 58 ยังมีการเติบโต โดยเฉลี่ยมีโอกาสที่จะเติบโตได้ราว 3-4% อย่างไรก็ตาม ตลาดต้องติดตามปัจจัยต่างประเทศประกอบ ทั้งเรื่องการกำหนดนโยบายการเงินของประเทศหลัก โดยเริ่มจะเห็นสัญญาณสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะค่อยๆ ฟื้นตัว แต่ทั้งนี้ยอมรับว่า การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายของต่างประเทศจะมีผลต่อทิศทางเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศ

ด้าน นายยิ่งยง นิลเสนา รองเลขาธิการ กลุ่มงานบริหารกองทุน กบข. เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจต่อผลตอบแทนการลงทุนของ กบข. ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันที่ทำได้ระดับ 5.90% เนื่องจากผลตอบแทนชนะอัตราเงินเฟ้อ และเงินฝาก สำหรับปัจจุบันการลงทุนของ กบข.แบ่งเป็นการลงทุนในพันธบัตรราว 60% และลงทุนหุ้นกู้เล็กน้อย

นอกจากนี้ แบ่งเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นไทย 11.5% และตลาดหุ้นต่างประเทศ 14% สอดคล้องต่อภาวะเศรษฐกิจ ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะเพิ่มหรือลดสัดส่วนในจังหวะใดนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความเหมาะสม โดยคำนึงโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

กรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญ ตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 พ.ศ. ... หรือ พ.ร.บ.อันดู (UNDO) นั้น กบข.คาดมีสมาชิกใช้สิทธิ UNDO ราว 2.1 แสนคน หรือ 30% โดยคิดเป็นจำนวนเงินที่ต้องคืนสมาชิกประมาณ 4 หมื่นล้านบาท

พร้อมกันนี้ กบข. คาดจะมีสมาชิกที่อยู่ต่อราว 70% หรือ 5 แสนคน ซึ่งปัจจุบันกำหนดให้สมาชิกแจ้งได้แล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2558 และจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.2558 โดย กบข.ได้เตรียมการเรื่องสภาพคล่องไว้เรียบร้อยแล้ว และไม่ต้องขายสินทรัพย์เพิ่มเติมในกรณีที่มีสมาชิกลาออกเกินกว่าจำนวนที่คาดไว้ นอกจากนี้ ในแต่ละปีจะมีจำนวนสมาชิกใหม่ๆ ที่เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กบข.ได้จัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้แก่สมากชิกอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการให้ข้อมูล และติดต่อสื่อสารกับสมาชิกข้าราชการให้มีความเข้าใจเรื่องการลงทุน และชี้แจงเรื่องสิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิก กบข. อย่างไรก็ดี เตือนสมาชิกอย่าพิจารณาตามกระแสเพราะหากเป็นสมาชิก กบข.ต่อไปจะได้รับเงินก้อนเมื่อเกษียณอายุ

โดยเมื่อรวมเงินสมทบของตนเอง 200,000 บาท และเงินประเดิมก้อนแรก เงินสมทบจากภาครัฐ 3% และเงินชดเชยที่รัฐสะสม 2% คิดเป็น 800,000 บาท ขึ้นอยู่กับอายุงาน รวมประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งหากสมาชิกยื่นใช้สิทธิ UNDO จะได้เงินจำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ หากสมาชิกทำเรื่องลาออกจากสมาชิก กบข. แล้วจะไม่สามารถกลับมาเป็นสมาชิกใหม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น