กบข.ให้น้ำหนักหุ้นตลาดเกิดใหม่ ประเมินศักยภาพการเติบโตยังมีสูง

กบข. เผยกลยุทธ์ปี 57 เล็งเพิ่มน้ำหนักหุ้นตลาดเกิดใหม่เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอินเดีย มั่นใจศักยภาพการเติบโตของตลาดเกิดใหม่ยังมีสูง พร้อมเผยผลการดำเนินงานปี 2556 มีสินทรัพย์สุทธิ 632,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.59% และผลประโยชน์สุทธิ 22,647 ล้านบาท

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ผลตอบแทนสะสมส่วนของสมาชิกหลังหักค่าใช้จ่ายตั้งแต่จัดตั้งกองทุน หรือประมาณ 16 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยปีละ 6.89% สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำธนาคารและอัตราเงินเฟ้อในระยะเวลาเดียวกัน ซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.19 และร้อยละ 2.92 ตามลำดับ

ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของ กบข. ณ สิ้นเดือนเมษายน 2557 นั้น กบข.มีการลงทุนในหุ้นไทยประมาณ 11% หุ้นในต่างประเทศประมาณ 15% ตราสารหนี้ไทย 61% และตราสารหนี้ต่างประเทศอีก 5% รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ อีกประมาณ 7-8% เช่น อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศผ่านกองทุนรวม และ Global private equity หรือหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น

สำหรับการลงทุนในปีนี้นั้น เราจะกระจายการลงทุนในส่วนของหุ้นต่างประเทศไปลงทุนในตลาดเกิดใหม่ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรืออินเดีย เป็นต้น เนื่องจากในปีที่แล้วทาง กบข.ทยอยเก็บหุ้นในตลาดพัฒนาแล้วมาค่อนข้างมากและให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ ซึ่งเรามองว่าศักยภาพของประเทศเกิดใหม่ยังสามารถเติบโตได้ต่อจากนี้ นอกจากนี้ ในส่วนของการลงทุนในหุ้นไทยนั้นทาง กบข.เองคงจะต้องรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับเศรษฐกิจรวมถึงภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นเสียก่อน ถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ดีต่อจากนี้

“ส่วนมุมมองของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือต่อจากนี้ เราประเมินว่าจะดีขึ้น ซึ่งตัวเลขในไตรมาสที่ 2 ที่กำลังจะประกาศเร็วๆ นี้อาจจะไม่สดใสมากนัก แต่เชื่อว่าความชัดเจนทางการเมืองจะช่วยให้ครึ่งปีหลังที่เหลือนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะเดินต่อไปได้ ทั้งนี้ เป้าหมายการสร้างผลตอบแทนของ กบข.นั้นคือการสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำธนาคารและอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปีละ 2-3% เป็นอย่างต่ำ” นายสมบัติกล่าว

ทางด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ประธานกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน กบข.มีการเติบโตในทุกด้าน เงินกองทุนเมื่อปี 2540 มีจำนวน 69,946 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 กบข.มีสินทรัพย์สุทธิอยู่ทื่ 632,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55,375 ล้านบาท หรือ 9.59% จากปี 2555 จากเงินรับสมาชิก 32,949 ล้านบาท และผลประโยชน์สุทธิในปี 2556 อยู่ที่ 22,647 ล้านบาท เงินลงทุนของ กบข.ลงทุนอยู่ในตลาดการเงินและการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ สมาชิกที่เกษียณอายุราชการ นอกจากจะได้รับเงินบำนาญจากรัฐบาลเป็นประจำทุกเดือนแล้ว ยังได้เงินก้อนจาก กบข.อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งปีที่ผ่านมาสมาชิกที่เกษียณได้เงินจาก กบข.เฉลี่ยรายละประมาณ 700,000 บาท นับได้ว่าการจัดตั้งเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐกำหนด

สำหรับประเด็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 นั้น ขณะนี้กระบวนการพิจารณาร่างแก้ไขพระราชบัญญัติดังกล่าวสะดุดหยุดลง เนื่องจากการยุบสภาเมื่อเดือนธันวาคม 2556 จึงต้องเป็นเรื่องของรัฐบาลชุดใหม่และรัฐสภาที่จะพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ในเรื่องดังกล่าวต่อไป