คปภ. ระบุ ธุรกิจประกันยังเติบโตต่อเนื่อง แม้เจอเศรษฐกิจชะลอ แต่ภาคการลงทุนมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันลดลงและปัญหารัสเซีย ชี้ ปีหน้าต้องระวังความผันผวนการลงทุน
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันในปีหน้ายังเติบโตต่อเนื่องไปได้ เพราะ จากขนาดเศรษฐกิจที่มีจีดีพี ขนาด 2 ล้านล้านบาท มีเบี้ยประกันเติบโตปีละ 7 แสนล้านบาท เฉลี่ยแล้วที่ผ่านมาธุรกิจประกันเติบโตปีละ 13% และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องแบบนี้ต่อเนื่องไป โดยธุรกิจประกันของไทยมีความแข็งแกร่งผ่านเหตุการณ์สำคัญอย่างน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ก็ยังกลับมาได้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจประกันภัย และคนให้ความสนใจประกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าในส่วนของธุรกิจประกันจะเติบโตได้ดี แต่ในด้านของสินทรัพย์ที่ลงทุนนั้น ถือว่ามีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในปีหน้าที่การลงทุนจะมีความผันผวนจากปัญหาเศรษฐกิจรัสเซีย ปัญหาราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้รับผลกระทบจากรายได้ และส่งผลถึงการลงทุนต่างๆของประเทศ รวมไปถึงการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นในปีหน้าจะมีความเสี่ยงด้านการลงทุนในตลาดทุน ตลาดตราสารหนี้ และอัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้นในส่วนของการลงทุนในสินทรัพย์ประกันจึงเกณฑ์การลงทุนกำกับไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยง ทั้งการลงทุนในประเทศและต่างประทศที่ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เป็นไปตามสากลมีคณะกรรมการลงทุนคอยกำกับดูแลความเสี่ยง ในภาวะที่มีความผันผวน แต่หากบริษัทใดต้องการเพิ่มการลงทุนก็สามารถขออนุญาตจากทาง คปภ. ได้ เช่นการเพิ่มสัดส่วนกาลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งทาง คปภ. ได้ส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนที่กำลังจะเปิดเสรีอาเซียน (AEC) เพื่อให้ธุรกิจประกันสามารถขยายธุรกิจไปอาเซียนมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการลงทุนร่วมและการเปิดบริษัทในต่างประเทศ ตามแต่ละประเทศจะอนุญาต ซึ่งปัจจุบันก็มีบริษัทที่มาขออนุญาตจากการ คปภ. และก็มีที่อนุมัติไปแล้วเช่นกัน
ขณะเดียวกันในส่วนของบริษัทประกันประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในไทยนั้นมองว่า ธุรกิจประกันของไทยไม่น่าจะได้รับผลระทบเพราะบริษัทหลายแห่งก็มีการลงทุนของประเทศอยู่แล้ว จึงไม่น่าห่วงต่อธุรกิจประกันของไทย แต่ที่ห่วงคือธุรกิจประกันของไทยควรจะต้องมีความแข็งแกร่ง รองรับความสามารถในขยายการลงทุนที่มากขึ้น ซึ่งทาง คปภ. ส่งเสริมให้บริษัทเพิ่มขนาดสินทรัพย์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่อยากออกเป็นกฎหมายบังคับเพิ่มทุน เพราะยังไม่อยากใช้กฎหมายบังคับดังกล่าว แต่หากจะต้องให้ออกกฎหมายบังคับทาง คปภ.ก็พร้อมที่จะออก
