xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ตลาดเอเชียยังเด่นสุด หุ้น US ต้องรอเก็บช่วงพักฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ทหารไทยเผยหุ้นสหรัฐฯ พื้นฐานแกร่ง แนะรอจังหวะดัชนีพักฐาน4-6% ค่อยทยอยเก็บ ขณะที่ยุโรปมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากมาตรการของ ECB ส่งผลดีต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ระบุเอเชียยังเด่นสุด ปรับตัวขึ้นชดเชยภูมิภาคอื่น

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ.ทหารไทย จำกัด รายงานภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในต่างประเทศล่าสุดว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบันมีพื้นฐานแข็งแกร่ง สามารถทยอยสะสมเมื่อดัชนีพักฐาน 4-6% ระดับอัตราส่วนราคาต่อคาดการณ์กำไรปี 2015 (Forward P/E) ของดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 16.0 สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 14.2 ซึ่งหุ้นสหรัฐฯ น่าจะซื้อขายที่ระดับ P/E สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตได้อย่างมีเสถียรภาพ หากตลาดเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไปเป็นระยะเวลายาวนานยิ่งขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อต่ำและนโยบายผ่อนคลายการเงินในยุโรป และญี่ปุ่น

ส่วนรายได้ค่าจ้างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่ลดลงตามราคาน้ำมันโลก น่าจะหนุนการบริโภคซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไปอีกหลายไตรมาส อย่างไรก็ตาม Fed จะพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อประกอบการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าการเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อ Fed มั่นใจว่าเศรษฐกิจแข็งแรงพอและไม่น่าจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ด้านเศรษฐกิจยุโรป แนวโน้มผลประกอบการดีขึ้นเนื่องจากเงินยูโรอ่อนค่า ขณะที่ราคาหุ้นรับรู้ความคาดหวังเกี่ยวกับ QE ไปบ้างแล้ว ดัชนี MSCI Europe ปรับตัวขึ้น 3.01% ในเดือน พ.ย.บนความคาดหวังว่า ECB อาจตัดสินใจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในช่วงต้นปีหน้า ระดับ Forward P/E ของ MSCI Europe อยู่ที่ 14.3 สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 12.0 โดย P/E น่าจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตภายใต้ภาวะดอกเบี้ยต่ำเช่นในปัจจุบัน โดยนโยบายการเงินของ ECB จะมีประสิทธิผลมากขึ้นหากได้แรงหนุนจากความต้องการสินเชื่อฟื้นตัว และ/หรือ มาตรการกระตุ้นด้านการคลังที่มากพอ แต่ยังมีความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จากรัสเซีย-ยูเครน ยังคงเป็นความเสี่ยงหลัก บลจ.ทหารไทยมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นเพราะผลประกอบการบริษัทยุโรปมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทว่ายังคงแนะนำให้ลงทุนหุ้นยุโรปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนคาดหวังสูงเมื่อเทียบกับหุ้นสหรัฐฯ

ขณะที่ตลาดเกิดใหม่นั้น พบว่าตลาดหุ้นเอเชียโดดเด่นที่สุด ขณะภูมิภาคอื่นๆ เผชิญแรงกดดัน ดัชนี MSCI Emerging Markets -1.12% ในเดือน พ.ย. โดยตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นช่วยชดเชยการร่วงลงของตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นๆ ได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งระดับ Forward P/E ของ MSCI Emerging Markets อยู่ที่ 11.1 (เฉลี่ย 10.8) โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงกดดันเศรษฐกิจและหุ้นละตินอเมริกาในภาพรวม

ทั้งนี้ รัสเซียถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร ประกอบกับราคาน้ำมันดิบร่วงลงจนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยกดดันหุ้น EM ยุโรปตะวันออกราคาน้ำมันถูกลงส่งผลลบต่อผู้ผลิต/ส่งออกน้้ามัน แต่ส่งผลบวกต่อผู้บริโภค/น้าเข้าน้ำมัน เป็นปัจจัยหลักที่ท้าให้หุ้น EM ประเทศต่างๆ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่แตกต่างกันได้มาก


กำลังโหลดความคิดเห็น