จับตามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียส่งผลกระเทือนหุ้นทั่วโลก รวมถึงการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ขณะที่ ศก.ยุโรปยังผัวผวน อาจมีการทำ QE อีกรอบและเป็นผลดีต่อตลาดเกิดใหม่
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด รายงานภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในต่างประเทศล่าสุดว่า แนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงนี้ยังคงมุมมองความน่าสนใจระดับปานกลาง (Neutral) ด้วยผลกำไรบริษัทขยายตัวดีขณะราคาหุ้นเริ่มน่าสนใจ รอประเมินสถานการณ์รัสเซีย-ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก่อนพิจารณาปรับมุมมอง ซึ่งดัชนี S&P 500 ลดลง 1.51% ในเดือน ก.ค. จากความกังวลว่า Fed จะปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้น หลังดัชนีชี้วัดค่าจ้างแรงงานตัวหนึ่งเพิ่มขึ้นเกินคาด ขณะที่ระดับ Forward P/E (อัตราส่วนราคาต่อคาดการณ์ก่าไรปี 2015) ของดัชนี S&P 500 ลดลงมาอยู่ที่ 14.5 สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 14.2 เพียงเล็กน้อย โดยที่ความกังวลเกี่ยวกับรัสเซียเพิ่มความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งรวมถึงพันธบัตรสหรัฐฯ สวนทางกับแรงขายจากความกังวลว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับแนวโน้มดอกเบี้ยยูโรโซนยังเป็นขาลงช่วยกดดันให้ UST yield ไม่พุ่งขึ้นเร็วนัก จึงช่วยลดความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับฐานอย่างรุนแรงจึงต้องติดตามผลกระทบจากการเพิ่มมาตรการคว่่าบาตรรัสเซียอย่างใกล้ชิด และรอดูสัญญาณดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีที่ Jackson Hole วันที่ 21-23 ส.ค. เพื่อประกอบการปรับมุมมองหุ้นสหรัฐฯ
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับมุมมองเป็น Neutral ในระยะสั้น (จากเดิม Overweight) ด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มมาตรการคว่่าบาตรรัสเซีย โดยดัชนี MSCI Europe ลดลง 1.59% ในเดือน ก.ค. จากการที่สหภาพยุโรปเพิ่มมาตรการคว่่าบาตรรัสเซียและความกังวลว่า Fed อาจปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ภายใต้ภาวะที่อัตราดอกเบี้ยยุโรปต่่าเป็นประวัติการณ์ ดัชนีอาจซื้อขายที่ระดับ P/E สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตได้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัวไม่สม่ำเสมอและเงินเฟ้อยังต่ำมากกดดันให้ ECB อาจตัดสินใจทำ QE ในที่สุด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าตลาดสินเชื่อซึ่งเริ่มส่งสัญญาณที่ดีขึ้นจะสามารถฟื้นตัวในระดับที่ ECB พอใจหรือไม่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และการเพิ่มมาตรการคว่่าบาตรรัสเซียเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจยุโรปผ่านช่องทางการค้าระหว่างประเทศและความเชื่อมโยงในภาคธนาคาร จึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนหุ้นยุโรปในระยะนี้
ด้านตลาดหุ้นเกิดใหม่ ปรับมุมมองเป็น Neutral ในระยะสั้น (จากเดิม Overweight) ด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากนโยบาย Fed และมาตรการคว่่าบาตรรัสเซีย ทั้งนี้ตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ (EM) ปรับตัวขึ้น 1.43% ในเดือน ก.ค. จากกระแสเงินทุนไหลเข้าโดยมีปัจจัยบวกสำคัญจาก GDP และตลาดหุ้นจีนฟื้นตัว แต่นับตั้งแต่สิ้นเดือน ก.ค. หุ้น EM ปรับตัวลงจากความกังวลว่า Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วและสหภาพยุโรปเพิ่มมาตรการคว่่าบาตรรัสเซีย
ดังนั้นจึงต้องติดตามผลกระทบจากการเพิ่มมาตรการคว่่าบาตรรัสเซียอย่างใกล้ชิด และรอดูสัญญาณดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีที่ Jackson Hole วันที่ 21-23 ส.ค. เพื่อประกอบการปรับมุมมองหุ้น EM ซึ่งในระยะกลาง แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงในยูโรโซนช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยโลกตลอดจนเพิ่มสภาพคล่อง น่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ EM และความคืบหน้าของการปฏิรูปในหลายประเทศที่มุ่งเพิ่มศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในระยะยาว
