ทิสโก้เพิ่มทุนกองหุ้นสหรัฐฯ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ ฟันด์” 1,000 ล้านบาท รับกระแสการลงทุนสหรัฐฯ หลังแนวโน้มเศรษฐกิจแข็งแกร่ง คาดผลประกอบการบริษัทดีกว่าคาด
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า บลจ.ทิสโก้ได้เพิ่มทุนกองทุนสหรัฐฯ อีกครั้งจำนวน 1,000 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินทุนโครงการทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท เนื่องจากขนาดกองทุนเดิมมีจำนวนใกล้เต็มมูลค่า และเพื่อเป็นการตอบรับกระแสจากนักลงทุนที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยจุดเด่นของกองทุนดังกล่าวคือมีความคล่องตัวสูง สามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ
“เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในสหรัฐฯ จากภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ตัวเลขการว่างงานที่ลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ตัดสินใจยุติการทำ QE หลังเห็นสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างชัดเจน โดยจังหวะที่หุ้นปรับฐานถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะทยอยเข้าสะสมหุ้นสหรัฐฯ” นายสาห์รัชกล่าว
โดยฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดย GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 3.5% saar มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.0% หนุนโดยการส่งออกสุทธิ และการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 9.9% (จาก -0.9% ไตรมาสก่อน) ด้านการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวขึ้นเล็กน้อย โดย Deutsche Bank ซึ่งเป็นพันธมิตรกับทิสโก้ ประเมินว่าในไตรมาส 4 เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ถึง 4.2% จากปัจจัยหนุนดังนี้ 1) การบริโภคภาคครัวเรือนมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น หนุนโดยราคาพลังงานที่ลดลงอย่างรวดเร็วและการจ้างงานที่ปรับตัวดี 2) การลงทุนในที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น สะท้อนจากความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านที่แข็งแกร่งในช่วงหลัง 3) การใช้จ่ายภาครัฐฯ ที่กลับมาขยายตัว นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนใน S&Pของไตรมาสที่ 3 ยังคงออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดเป็นส่วนใหญ่ โดยประกาศออกมาแล้วจำนวน 208 บริษัท ซึ่งมีจำนวน 127 บริษัท (คิดเป็น 61%) ที่มีผลประกอบการดีกว่าที่คาด โดยรายงานกำไรรวมสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด 4.75% (Aggregate Earnings Surprise)
ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแข็งค่ามาแล้วราว 8% นับจากต้นปีและมีแนวโน้มการแข็งค่าต่อเนื่อง จะช่วยให้สินทรัพย์ที่อยู่ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐน่าสนใจขึ้น อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมุมมองว่าความไม่มีประสิทธิภาพในตลาดแรงงาน (Underutilization) กำลังค่อยๆ ลดลง ซึ่งสวนทางกับการประชุมครั้งก่อนที่มองว่าตลาดแรงงานยังมีความไม่มีประสิทธิภาพอยู่มาก โดยล่าสุดตัวเลขอัตราการว่างงานลดลงต่ำกว่า 6% ทิสโก้ เวลธ์จึงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
สำหรับ กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ ฟันด์ (TISCO US Equity Fund) เป็นกองทุนที่จะลงทุนใน SPDR S&P 500 ETF ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นชั้นนำในสหรัฐฯ ซึ่งล้วนเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 มากที่สุด ซึ่งจุดเด่นของกองทุนอยู่ที่สภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า บลจ.ทิสโก้ได้เพิ่มทุนกองทุนสหรัฐฯ อีกครั้งจำนวน 1,000 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินทุนโครงการทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท เนื่องจากขนาดกองทุนเดิมมีจำนวนใกล้เต็มมูลค่า และเพื่อเป็นการตอบรับกระแสจากนักลงทุนที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยจุดเด่นของกองทุนดังกล่าวคือมีความคล่องตัวสูง สามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ
“เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในสหรัฐฯ จากภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ตัวเลขการว่างงานที่ลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ตัดสินใจยุติการทำ QE หลังเห็นสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างชัดเจน โดยจังหวะที่หุ้นปรับฐานถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะทยอยเข้าสะสมหุ้นสหรัฐฯ” นายสาห์รัชกล่าว
โดยฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดย GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 3.5% saar มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.0% หนุนโดยการส่งออกสุทธิ และการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 9.9% (จาก -0.9% ไตรมาสก่อน) ด้านการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวขึ้นเล็กน้อย โดย Deutsche Bank ซึ่งเป็นพันธมิตรกับทิสโก้ ประเมินว่าในไตรมาส 4 เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ถึง 4.2% จากปัจจัยหนุนดังนี้ 1) การบริโภคภาคครัวเรือนมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น หนุนโดยราคาพลังงานที่ลดลงอย่างรวดเร็วและการจ้างงานที่ปรับตัวดี 2) การลงทุนในที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น สะท้อนจากความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านที่แข็งแกร่งในช่วงหลัง 3) การใช้จ่ายภาครัฐฯ ที่กลับมาขยายตัว นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนใน S&Pของไตรมาสที่ 3 ยังคงออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดเป็นส่วนใหญ่ โดยประกาศออกมาแล้วจำนวน 208 บริษัท ซึ่งมีจำนวน 127 บริษัท (คิดเป็น 61%) ที่มีผลประกอบการดีกว่าที่คาด โดยรายงานกำไรรวมสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด 4.75% (Aggregate Earnings Surprise)
ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแข็งค่ามาแล้วราว 8% นับจากต้นปีและมีแนวโน้มการแข็งค่าต่อเนื่อง จะช่วยให้สินทรัพย์ที่อยู่ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐน่าสนใจขึ้น อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมุมมองว่าความไม่มีประสิทธิภาพในตลาดแรงงาน (Underutilization) กำลังค่อยๆ ลดลง ซึ่งสวนทางกับการประชุมครั้งก่อนที่มองว่าตลาดแรงงานยังมีความไม่มีประสิทธิภาพอยู่มาก โดยล่าสุดตัวเลขอัตราการว่างงานลดลงต่ำกว่า 6% ทิสโก้ เวลธ์จึงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
สำหรับ กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ ฟันด์ (TISCO US Equity Fund) เป็นกองทุนที่จะลงทุนใน SPDR S&P 500 ETF ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นชั้นนำในสหรัฐฯ ซึ่งล้วนเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 มากที่สุด ซึ่งจุดเด่นของกองทุนอยู่ที่สภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ