บลจ.กสิกรไทยออกกองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน (K-JP) อีกรายส่งท้ายปลายปี มองเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังเติบโต รับโอกาสกำไร เสนอขายครั้งแรก 11-17 ธ.ค.นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ภายหลังรัฐบาลมีการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนเมษายน 2557 อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวลงในไตรมาส 3 ดังกล่าวเชื่อว่าน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว โดย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะสามารถขยายตัวได้ 0.80% ในปี 2558
โดยจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย รวมถึงการอัดฉีดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดในช่วงเดือนตุลาคม 2557 ได้อัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมในระบบมาสู่ที่ระดับ 80 ล้านล้านเยนต่อปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดการเงินโลก ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศสิ้นสุดมาตรการ QE ประกอบกับค่าเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนตัวลงต่อเนื่องจะส่งผลดีในแง่ของการส่งออกและทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นในภาพรวมมีแนวโน้มเติบโตที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากกรณีกองทุนบำนาญญี่ปุ่น (GPIF) ซึ่งเป็นกองทุนบำนาญที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ได้ประกาศปรับแผนสัดส่วนนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ โดยจะเพิ่มสัดส่วนในหุ้นญี่ปุ่นมากขึ้น จะช่วยทำให้ความต้องการหุ้นญี่ปุ่นมีเพิ่มขึ้น และส่งผลบวกต่อการปรับตัวของราคาหุ้นญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ระดับราคาหุ้นญี่ปุ่นในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต โดยดัชนี TOPIX ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (Forward P/E) ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 15.4 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปีที่ 20.1 เท่า (ที่มา : Bloomberg 27 พ.ย. 57) ดังนั้น ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจึงมีโอกาสเติบโตขึ้นได้อีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะต้องจับตามอง คือ การติดตามผลจากการดำเนินมาตรการของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยเฉพาะมาตรการธนูดอกที่ 3 ที่ได้เริ่มดำเนินไปบ้างแล้วว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหรือไม่ รวมถึงการติดตามผลเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในช่วงกลางเดือนธันวาคมปีนี้
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 11-17 ธันวาคม 2557 บลจ.กสิกรไทยเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน (K-JP) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุน K-JP จะนำเงินไปลงทุนผ่านกองทุนหลัก คือ กองทุน Schroder International Selection Fund Japanese Equity, Class A Acc ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งบริหารจัดการโดย Schroder Investment Management (Luxembourg) S.A.
สำหรับนโยบายการลงทุนของกองทุนหลัก จะลงทุนในหุ้นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ส่วนของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการดี มีความสามารถในการแข่งขันสูง และมีความยั่งยืนในการเติบโตของธุรกิจ เช่น บริษัท Toyota Motor ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) และรายได้มากที่สุดของญี่ปุ่น, บริษัท Honda Motor ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก, บริษัท Hitachi ซึ่งเป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์และวิศวกรรมรายใหญ่ของโลก
โดยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 38 จาก 500 บริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลก, Sumitomo Mitsui Financial Group กลุ่มสถาบันการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ กองทุนจะไม่จำกัดหมวดหมู่ของอุตสาหกรรม หรือขนาดของบริษัทเพื่อความคล่องตัวในการลงทุน ซึ่งกองทุน K-JP เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับค่อนข้างสูง และเป็นกองทุนที่มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งมุ่งหวังให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับกองทุน Schroder ISF Japanese Equity ให้มากที่สุด