xs
xsm
sm
md
lg

JAS พร้อมเปิดตัวกองอินฟราฯ ลงทุนไฟเบอร์ออปติกชูยิลด์ปีแรกเฉลี่ย 7.80-8.19% ต่อปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต
บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จับมือ บลจ.บัวหลวง พร้อมส่งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) เน้นลงทุนในกรรมสิทธิ์ในเส้นใยแก้วนำแสง 980,000 คอร์กิโลเมตร คาดมูลค่ากองทุนประมาณ 55,000-57,750 ล้านบาท จำนวนหน่วยลงทุน 5,500 ล้านหน่วย ประเมินผลตอบแทนในปีแรกเฉลี่ยที่ 7.80-8.19% ต่อปี

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ถือเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่จัดขึ้นเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เน้นลงทุนในทรัพย์สินบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนให้เกิดการใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน

โดยทรัพย์สินที่กองทุนจะเข้าลงทุนครั้งแรก ได้แก่ กรรมสิทธิ์ในเส้นใยแก้วนำแสง 980,000 คอร์กิโลเมตร ประกอบด้วย (1) เส้นใยแก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณไม่น้อยกว่า 800,000 คอร์กิโลเมตร ที่บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JAS จะส่งมอบให้ JASIF ณ วันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น และ (2) เส้นใยแก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณ 180,000 คอร์กิโลเมตร ที่ TTTBB จะทยอยส่งมอบให้ JASIF ภายใน 2 ปี นับจากวันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งร่างหนังสือชี้ชวนกองทุนรวม JASIF แล้วเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับประมาณการเงินที่นักลงทุนจะได้รับในปีแรกประมาณ 8.59-9.02% จะแบ่งเป็นประมาณการการจ่ายเงินปันผล 7.80-8.19% และการจ่ายลดทุน 0.80-0.84% อันเนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากค่าเช่ารับล่วงหน้า ตามที่ปรากฏอยู่ในหนังสือชี้ชวน

ทางด้านนายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดเด่นของ JASIF ซึ่งได้แก่ เส้นใยแก้วนำแสงที่กองทุนจะลงทุนมีอายุการใช้งานมาแล้วเฉลี่ยเพียงประมาณ 4 ปี และวางโครงข่ายไว้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ขณะที่รายได้ค่าเช่าของกองทุนเติบโตสม่ำเสมอ มีโอกาสจ่ายผลตอบแทนที่น่าสนใจให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน โดยรายได้ค่าเช่าของกองทุนจะเป็นไปตามสัญญาเช่าระหว่างกองทุนกับ TTTBB ซึ่งจะปรับขึ้นตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี และคาดว่าในปี 2558 กองทุนจะสามารถจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ 4,962.9 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นในรูปของเงินปันผล 4,501.9 ล้านบาท และการลดทุน 461.0 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มการเติบโตสูง ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในระดับต่ำเพียงร้อยละ 24.6 ในปี 2556 เทียบกับช่วงร้อยละ 70.3-99.6 ของประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี และสิงคโปร์ คาดว่าอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของไทยจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นร้อยละ 35.4 และร้อยละ 44.0 ในปี 2559 และปี 2562

นอกจากนี้ TTTBB ในฐานะผู้เช่าหลักมีผลการดำเนินงานที่เติบโต โดย TTTBB มีรายได้เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศไทย โดยมีรายได้ในปี 2556 เท่ากับ 9,623 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 22.6 ต่อปี ในระหว่างปี 2554 ถึงปี 2556 และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2556 เท่ากับ 4,610 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 27.2 ต่อปี ในระหว่างปี 2554 ถึงปี 2556 และการที่ JAS จะถือหน่วยลงทุนร้อยละ 33.33 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในปีที่ 1-3 และจะถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 19 ในปีที่ 4-6


กำลังโหลดความคิดเห็น