ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(19พ.ย.) ขยับลงเล็กน้อยในช่วงบ่าย ตามหลังรายงานการประชุม(minutes)เร็วๆนี้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ขณะที่นักลงทุนกะเก็งว่าเมื่อใดที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ ลดลง 2.09 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,685.73 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.08 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,048.72 จุด แนสแดค ลดลง 26.73 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,675.71 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวลดลง 2.8% ในเดือนต.ค. แตะที่ 1.009 ล้านยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเป็นมาตรวัดการก่อสร้างในอนาคตปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.8% แตะที่ 1.08 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.6%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคเอกชน
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นสู่แดนบวกในระหว่างวัน หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนต.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอาจจะปรับตัวลดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันชะลอตัวลง แต่ก็คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นแตะระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่า การที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวในระดับต่ำนั้น สะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีก ซึ่งจะช่วยหนุนตลาดหุ้นให้แข็งแกร่งมากขึ้น
หุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้น ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทค้าปลีก โดยหุ้น Lowe’s Cos ปรับขึ้น 6.4% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นในปี 2557 เป็น 2.68 ดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.63 ดอลลาร์
ขณะที่หุ้น Target Corp พุ่งขึ้น 7.39% หลังจากบริษัทบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 มูลค่า 1.773 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.
ดาวโจนส์ ลดลง 2.09 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,685.73 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.08 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,048.72 จุด แนสแดค ลดลง 26.73 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,675.71 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวลดลง 2.8% ในเดือนต.ค. แตะที่ 1.009 ล้านยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเป็นมาตรวัดการก่อสร้างในอนาคตปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.8% แตะที่ 1.08 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.6%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคเอกชน
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นสู่แดนบวกในระหว่างวัน หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนต.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอาจจะปรับตัวลดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันชะลอตัวลง แต่ก็คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นแตะระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่า การที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวในระดับต่ำนั้น สะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีก ซึ่งจะช่วยหนุนตลาดหุ้นให้แข็งแกร่งมากขึ้น
หุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้น ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทค้าปลีก โดยหุ้น Lowe’s Cos ปรับขึ้น 6.4% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นในปี 2557 เป็น 2.68 ดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.63 ดอลลาร์
ขณะที่หุ้น Target Corp พุ่งขึ้น 7.39% หลังจากบริษัทบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 มูลค่า 1.773 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.