บลจ.ไทยพาณิชย์แนะเคล็ดลงทุน LTF-RMF ปลายปี เน้นหุ้นเป็นหลัก เหตุแนวโน้มเศรษฐกิจไทย-โลก ฟื้นตัวต่อเนื่อง พร้อมชูกอง SCBLT 3 ผลงานแจ่มยิลด์ย้อนหลัง 21.67% ส่วน RMF ล็อกเป้า SCBRMS50 ยิลด์ย้อนหลัง 21.57%
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้นั้น บริษัทแนะนำให้นักลงทุนเน้นการลงทุนในหุ้นเนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องใน 1-2 ปีข้างหน้าจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากหลายๆประเทศ รวมทั้งตลาดหุ้นไทยก็ยังคงมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 2558 โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ประมาณการว่าจีดีพีของไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.1% ในปี 2558
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าการลงทุนในกองทุนประหยัดภาษีช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากคาดว่าตลาดมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นต่อได้ด้วยปัจจัยเสริมจากแรงซื้อ LTF ระลอกสุดท้ายในช่วงเดือน ธ.ค. อีกทั้งผลตอบแทนในตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำยังคงเป็นแรงผลักดันตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจะช่วยให้ธนาคารกลางทั่วโลกสามารถคงดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปได้นานขึ้นเนื่องจากแรงกดดันจากเงินเฟ้อลดน้อยลง
ส่วนการลงทุนของประเทศไทยนั้นจะมีแรงกระตุ้นของการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านการคมนาคม การบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังนโยบายภาครัฐที่มีความชัดเจน อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับลดลงจะช่วยให้ดุลการค้าและจีดีพีเป็นบวกมากขึ้น ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำที่ 2% จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปได้
นายสมิทธ์ กล่าวอีกว่า ผลงานของกองทุน LTF และ RMF ของบริษัทถือว่าให้ผลตอบแทนในระดับที่ดี และอยากแนะนำให้นักลงทุนพิจารณา เช่นกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ (SCBLT 3) เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) โดยเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี แนวโน้มเติบโตสูง เหมาะสำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้สูง ซึ่งเป็นกองทุนที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล โดยตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พ.ย.) สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอยู่ที่ 21.67% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (ต.ค. 2548) อยู่ที่ 155.87%
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (SCBLTT) เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีพื้นฐานดี มั่นคง และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล โดยตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พ.ย.57) สามารถสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 20.02% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (มิ.ย. 2550) อยู่ที่ 88.56%
และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) เน้นการลงทุนหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีนโยบายหรือมีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่า 65% และไม่เกิน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า จึงเหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่อยากรับความเสี่ยงสูง ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พ.ย. 57) อยู่ที่ 14.14% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (ต.ค. 47) อยู่ที่ 123.94%
ส่วนกองทุนรวม RMF ที่แนะนำคือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 INDEX เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMS50) เน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 ซึ่งจำลองการเคลื่อนไหวของดัชนี SET50 ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พ.ย. 57) สามารถให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 21.57% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (ต.ค. 54) อยู่ที่ 63.74%