บลจ.กรุงไทยเปิดขายกองบอนด์ 3 เดือน "กรุงไทยธนทรัพย์ เอ็นแฮนซท์ 10" (KTSUPE10) ชูผลตอบแทน 2.25% ต่อปี มองตลาดตราสารหนี้ไทยยังไม่มีปัจจัยใหม่ ยังมีแรงซื้อจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ เอ็นแฮนซท์ 10 (KTSUPE10) ในวันที่ 29 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน 2557 อายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก China Construction Bank (Asia) ในสัดส่วน 40% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภท หุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทิสโก้ ธนาคารเกียรตินาคิน และตั๋วแลกเงิน บมจ.บัตรกรุงไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.25% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือน คุ้มครองเงินต้น2 (KTFIX6M2) เสนอขายถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2557 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภท พันธบัตรภาครัฐ เงินฝาก บัตรเงินฝากธนาคารออมสิน ธนาคารทิสโก้ และธนาคารไอซีบีซี ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.00% ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ไทยปรับตัวในช่วงแคบๆ ประมาณ 0 ถึง -2 bps ตลาดค่อนข้างเงียบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ในประเทศ ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดทำให้เกิดแรงขายทำกำไรบ้างตามตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ แต่แรงซื้อของนักลงทุนในประเทศที่ยังมีอยู่ค่อนข้างมากยังกดดันไม่ให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ไทยปรับตัวสูงขึ้น ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนชาติมีการกลับเข้าซื้อตราสารหนี้ไทย โดยเป็นยอดซื้อสุทธิจำนวน 6,613 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุ 2 ปีคงตัวอยู่ที่ 2.27% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปีปรับตัวลดลง 2 bps มาอยู่ที่ 2.70% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 1 bps มาอยู่ที่ 3.22% ต่อปี
ส่วนตราสารหนี้ต่างประเทศ อัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวสูงขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายพันธบัตรภาครัฐเพื่อกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงหลังจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ประกอบกับธนาคารกลางยุโรปเริ่มเดินหน้าซื้อตราสารหนี้ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ล่าสุดฟิทช์ (FITCH) คงอันดับความน่าเชื่อถืออิตาลีและสเปนที่ BBB+ ในขณะที่มูดี้ส์ (Moody's) ลดอันดับเครดิตรัสเซียลงสู่ Baa2 จากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 2 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 2 bps มาอยู่ที่ 0.41% ต่อปี อายุ 5 ปีปรับตัวสูงขึ้น 8 bps มาอยู่ที่ 1.52% ต่อปี และอายุ 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 7 bps มาอยู่ที่ 2.29% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนทั้ง 2 กองทุนที่อยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายของ บลจ.กรุงไทย นับเป็นกองทุนทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสในการรับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ และบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี
