ธนาคารทหารไทยส่งผลิตภัณฑ์ธุรกรรมทางการเงินภายใต้ชื่อ "TMB Open Architerture" จับมือ 4 บลจ. ได้แก่ บลจ.ทหารไทย บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล บลจ.อเบอร์ดีน และ บลจ.ยูโอบี เพิ่มทางเลือกลงทุนข้ามค่ายแก่นักลงทุน มั่นใจเพิ่มพอร์ตลูกค้ากองทุนได้ 15% ด้านบิ๊กกองทุน 4 บลจ.เผยลงทุนสหรัฐฯ-ยุโรปต้องเน้นยาว ส่วนญี่ปุ่นยังมีอัปไซด์อีกเพียบ
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย หรือทีเอ็มบี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารทหารทไทยได้ออกแบบธุรกรรมทางการเงินที่ชื่อว่า "TMB Open Architerture" ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มที่มีความต้องการที่จะลงทุนในกองทุนรวม โดยนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่อยู่ต่างค่ายจากธนาคารทหารไทยได้
นอกเหนือจาก บลจ.ทหารไทยแล้ว ธนาคารยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทจัดการกองทุนอีก 3 แห่ง ได้แก่ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล บลจ.อเบอร์ดีน และ บลจ.ยูโอบี ขณะเดียวกันธนาคารทหารไทยยังได้ร่วมกับ บลจ.ทหารไทย และเมอร์เซอร์ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลกในการคัดเลือกกองทุนรวมต่างประเทศด้วยกรอบการคัดเลือกในระดับสากล ส่วนกองทุนรวมที่ลงทุนในไทยแและอื่นๆ ธนาคารทหารไทยก็ใช้เกณฑ์เลือกตามมาตรฐานสากลเดียวกัน เช่น ตัวกองทุนจะต้องมีนโยบายการลงทุนที่ชัดเจน มีผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญในสินทรัพย์ประเภทนั้นๆ โดยเฉพาะ ผ่านแบบจำลองความเสี่ยงที่เหมาะสม มีกระบวนการตัดสินใจลงทุนที่น่าเชื่อถือ และมีโอกาสทำกำไรที่ดีให้แก่ผู้ลงทุนได้
"เรามั่นใจว่าบริการ TMB Open Architerture จะสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์กองทุนรวมของธนาคารทหารไทยได้อย่างน้อย 15% หรือจากเดิมที่ 165,000 ราย ณ สิ้นปีที่ผ่านมา และคาดว่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนรวม (AUM) จะเพิ่มขึ้นเป็น 163,000 ล้านบาท จากเดิม 113,000 ล้านบาท" นายบุญทักษ์กล่าว
**เจาะภาพรวมเศราษฐกิจโลก**
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปนั้น โดยรวมแล้วปรับตัวดีขึ้นมาก หากมองในระยะยาวสองภูมิภาคนี้จะยังเติบโตต่อไปได้ แม้ในระยะสั้นอาจจะมีความผันผวนจากปัจจัยลบอยู่บ้างเช่น สหรัฐฯ นั้นอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องของการชะลอ QE ในขณะที่ยุโรปเองการรวมตัวกันในภูมิภาคอาจจะมีปัญหาเรื่องของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม การลงทุนในสหรัฐฯ และยุโรปนั้นควรจะเน้นเป็นการลงทุนแบบระยะยาว
ทางด้านนายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นว่า ปัญหาเศรษฐกิจญี่ปุ่นในรอบหลายปีที่ผ่านมาเริ่มคลี่คลาย ซึ่งต้องยอมรับว่านโยบายเศรษฐกิจของชินโซ อาเบะ นั้นค่อนข้างได้ผล ตัวเลขการบริโภค การจ้างงานก็ปรับตัวดีขึ้น ในขณะเดียวกันปัญหาเรื่องเงินฝืดที่หลายฝ่ายกังวลก็เริ่มคลายความกังวลลง ทั้งนี้เรามองว่า upside ในตลาดหุ้นของญี่ปุ่นนั้นยังมีอยู่มาก
นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า ความน่าสนใจของตลาดเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นนั้นเรามองว่าการเติบโตยังมีสูง โดยเฉพาะอินเดีย และเกาหลีใต้ ทั้งนี้การที่ประเทศในกลุ่มเอเชียมีการเปลี่ยนผู้นำประเทศใหม่ เช่น อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งผู้นำที่เข้ามาบริหารประเทศนั้นมีความโปร่งใสพอสมควร ซึ่งเรามองว่าอุปสรรค์สำคัญของภูมิภาคเอเชียคือปัญหาคอร์รัปชัน เราประเมินว่าต่อจากนี้ภูมิภาคเอเชียจะสามารถจัดการกับปัญหาคอร์รัปชันได้
ด้านนายอดิเทพ วรรณพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในส่วนของตลาดหุ้นไทยนั้นเรามองว่าหุ้นไทยยังมีความแข็งแกร่ง ในขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนก็ยังมีความน่าสนใจ ขณะเดียวกันการลงทุนของภาครัฐรวมถึงนโยบายต่างๆ ของรัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยและบริษัทจดทะเบียนด้วยเช่นกัน
