บลจ.ผสานเสียงประเมินหุ้นไทยและห้นยุโรปยังแข็งแกร่ง คาดยังมี Upside ต่อเนื่อง ล่าสุดบลจ.เอ็มเอฟซีส่งกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ลุยหุ้นยุโรปตั้งเป้า 10% ภายใน 10 เดือน ขณะทีบลจ.ยูโอบี พร้อมเสริฟ์ทริกเกอร์ฟันด์ลุยหุ้นไทยด้วยเช่นกัน ตั้งเป้า 6% เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึ ง6 สิงหาคม 2557
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากข้อมูลของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซี มองว่ามีปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในไทยและยุโรปคือ การคาดการณ์เศรษฐกิจในประเทศจะสามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังจากมีรัฐบาลใหม่มาบริหารประเทศ และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่อนข้างแข็งแกร่ง และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นไทยยังซื้อขายที่ระดับ P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นในภูมิภาค และการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างประเทศอยู่ระดับต่ำจึงมีโอกาสที่การไหลเข้าของเม็ดเงินเพิ่มได้ในอนาคต
ด้านภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยุโรปมีการฟื้นตัวในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาถึงไตรมาสแรกของปีนี้ นำโดยเศรษฐกิจของเยอรมนี และสัญญาณการฟื้นตัวของอิตาลีและสเปนโดยเฉพาะการจ้างงาน การค้าปลีก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวสูงกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ผลประกอบการไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาของบริษัทเอกชนในดัชนี Bloomberg European 500 Index สูงกว่าผลประกอบการของสี่ไตรมาสก่อนหน้า และดีกว่าที่คาดการณ์โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร
ทั้งนี้บลจ.เอ็มเอฟซีเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สมาร์ท อินเวสเมนท์ ซีรี่ส์ 5 อี 1 หรือกองทุนเปิด SI5E1 ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม-6 สิงหาคม 2557 ซึ่งลงทุนได้ทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ ของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคยุโรปโดยขึ้นกับสภาวะตลาดของแต่ละประเทศ มีสัดส่วนลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยตั้งเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ภายใน 10 เดือน จากจังหวะเศรษฐกิจไทยและยุโรปฟื้นตัว ซึ่งกองทุนมีการกระจายความเสี่ยงในหลายประเทศ และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสภาวการณ์
สำหรับกองทุนเปิด SI5E1 จะทยอยรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ถือหน่วยลงทุน 2 ครั้งภายใน 10 เดือนแรก โดยครั้งแรกเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.55 บาทขึ้นไป บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้น และครั้งที่สองเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน 11.15 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกันและทรัพย์สินเป็นเงินสดทั้งหมดเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOVในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 110 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) และบริษัทจะเลิกโครงการกองทุนดังกล่าว แต่หากเกิน 10 เดือน กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และกองทุนยังคงตั้งเป้าหมายผลตอบแทนร้อยละ 10 ต่อไป
****หุ้นไทยยังมีเสน่ห์****
นางสาวณัชชา สุนทรธาราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เรายังคงมีความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงปีหน้า ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการลงทุนของภาคเอกชน การลงทุนภาครัฐ การผลักดันงบค้างจ่ายต่างๆ ซึ่งจะสนับสนุนภาพรวมเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีปรับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปี 2558 GDP จะเติบโตที่ 5.5% เทียบกับ 1.5% ในปีนี้ รวมทั้งคาดการณ์การปรับกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (Earning per share) ในปี 2558 ว่า เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 15-20% อีกทั้งยังมีเงินลงทุนต่างชาติกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยสนับสนุนทั้งหมดนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตได้
ทั้งนี้บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) ได้พิจารณาถึงภาวะการลงทุนและเล็งเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยยังคงมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระยะกลางถึงยาว โดยบลจ.กำลังเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ไทย ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% (2) (T3P3 (2)) ระหว่างวันที่ 25 - 29 กรกฎาคม 2557 โดยกองทุนนี้มีเป้าหมายที่ 3%+3%