xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.ออกบอนด์รับผลตอบแทนสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.เปิดขายกองตราสารหนี้ ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ชูผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับลงร้อยละ 0.04 สู่ร้อยละ 2.46 ในขณะที่พันธบัตรในช่วงอายุอื่นๆ เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่างลดลงร้อยละ 0.01 ถึงเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.02 ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับลงมาก โดยได้แรงหนุนจากเงินลงทุนจากต่างประเทศ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนปรับลงร้อยละ 0.01-0.10

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M102(KFFIX6M102) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.65% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน

โดยกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M102 (KFFIX6M102) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อกผลตอบแทน โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 21-28 กรกฎาคม 2557 บลจ.กสิกรไทยจะยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี ที (KEFF1YT) ต่อเนื่องอีก ให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายที่ 3.00% ต่อปี นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2557 บริษัทยังเปิดเสนอขายอีก 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอดี (KEFF6MAD) ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายที่ 2.70% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน ซีเอฟ (KFI6MCF) ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้ที่ 2.60% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีเอ็ม (KFI3MEM) ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายที่ 2.40% ต่อปี

นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทยยังเปิดขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน ซีเอฟ (KFI6MCF) และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีเอ็ม (KFI3MEM) โดยกองทุน KFI6MCF เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Bank of China นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ด้านกองทุน KFI3MEM เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation และเงินฝาก Bank of China ด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น