xs
xsm
sm
md
lg

คาดระยะสั้นหุ้นไทยยังมีแรงเทขาย บลจ.แนะคนชอบเสี่ยงน้อยพักเงินในเทอมฟันด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทย และ บลจ.กรุงศรีประสานเสียงระยะสั้นหุ้นไทยยังมีแรงเทขาย แนะคนชอบเสี่ยงน้อยพักเงินในเทอมฟันด์

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงนี้ ทั้งด้านตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะยังคงมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนภายหลังสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศเริ่มคลี่คลายมากขึ้น ประกอบกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศเดินหน้าจัดทำโรดแมปเศรษฐกิจ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การพิจารณาอนุมัติงบประมาณปี 2558 ส่งผลให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง

โดยสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทั้ง Moody’s และ Fitch Ratings ต่างยังคงความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเอาไว้ที่ระดับเดิม นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยและการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งผลให้เงินลงทุนไหลกลับเข้าตลาดในประเทศเกิดใหม่รวมถึงประเทศไทยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยที่กล่าวมาอาจส่งผลต่อราคาตราสารหนี้ที่อาจปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ปรับตัวลดลงหรือแกว่งตัวได้ในระยะสั้น

ด้านสถานการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะยาวยังคงมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ผู้ลงทุนควรใช้ความระมัดระวังจากความผันผวนของดัชนีซึ่งเกิดจากแรงเทขายทำกำไรในระยะสั้น บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้ผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ไม่มากนักและสนใจลงทุนในระยะสั้นอาจแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงโดยเลือกพักกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการซึ่ง บลจ.กสิกรไทยได้เปิดเสนอขายเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยกองทุนดังกล่าวยังคงสามารถให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ในวันที่ 17-19 มิถุนายน 2557 บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี พี (KEFF1YP) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีเอช (KFI3MEH) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.40% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

ทางด้านนายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี จำกัด หรือ KSAM กล่าวว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะกลางของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนปรับขึ้นร้อยละ 0.05-0.10 ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยมีมากขึ้นหลังเกิดความตึงเครียดในอิรัก ทางด้านธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์จีดีพีของไทยในปีนี้ลงสู่ขยายตัวร้อยละ 2.5 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 3 แต่คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 4.5 ในปี 2558 และปี 2559 สำหรับเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับขึ้นร้อยละ 0.0-0.09

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M98(KFFIX6M98) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (Asia) (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Agricultural Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% และตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10%

โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.60% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น