xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยเปิดขายกองบอนด์ ลงทุนเมืองนอกชูยิลด์สูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยออกกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน-1 ปี ชูผลตอบแทน 2.40-2.90% เน้นตราสารคุณภาพดี เปิดขายครั้งเดียว 2-7 กรกฎาคมนี้

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก แต่ต้องการทางเลือกในการลงทุนที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าเงินฝาก บลจ.กสิกรไทยจึงยังคงเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุประมาณ 3 เดือน-1 ปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำ โดยในระหว่างวันที่ 2-7 กรกฎาคม 2557 บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี อาร์ (KEFF1YR) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.90% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอเอ (KEFF6MAA) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.70% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน ซีดี (KFI6MCD) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.60% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีเจ (KFI3MEJ) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.40% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนส่วนใหญ่ในเงินฝากและตราสารหนี้ของสถาบันการเงินในประเทศจีน พร้อมมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

ทั้งนี้ กองทุนเน้นการคัดเลือกตราสารที่มีคุณภาพและมีอันดับความน่าเชื่อถือที่ดี ควบคู่ไปกับโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าพอใจ ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากและตราสารหนี้ของสถาบันการเงินในประเทศจีนยังคงมีความน่าสนใจและเป็นทางเลือกที่จะสร้างโอกาสในการลงทุนที่ดีได้ ทั้งนี้ สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF1YR จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย เงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Bank of China ร่วมด้วยตราสารหนี้ Banco ABC Brasil S.A., ประเทศบราซิล ตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง และตราสารหนี้ Agricultural Bank of China ด้านกองทุน KEFF6MAA จะลงทุนในเงินฝากของ China Construction Bank Corporation เงินฝาก Bank of China ร่วมด้วยตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี ตราสารหนี้ Agricultural Bank of China และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่ค้ำประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว บลจ.กสิกรไทยขอแนะนำกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน ซีดี (KFI6MCD) และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน อีเจ (KFI3MEJ) โดยกองทุน KFI6MCD เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Bank of China ร่วมด้วยตราสารหนี้ Agricultural Bank of China และตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ด้านกองทุน KFI3MEJ เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation และเงินฝาก Bank of China ด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น