บลจ.ยูโอบีมองการลงทุนครึ่งปีหลังหุ้นไทยมีแนวโน้มเติบโต ความเชื่อมั่นกลับมาหลังจากการเมืองคลี่คลาย แนะเพิ่มการลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปและญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังคงฟื้นตัวเศรษฐกิจหลายๆ ด้านมีตัวเลขบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตได้ต่อเนื่อง IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโต 3.6% ในปี 2557 และ 3.9% ในปี 2558 สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าจะเติบโตได้ 2.8% โดยมีการบริโภค ภาคที่อยู่อาศัย และการจ้างงานที่ดีขึ้นเป็นปัจจัยหลักในการฟื้นตัว ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินลง แต่ยังคงให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่าจะยังคงดอกเบี้ยในระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่ง ส่วนเศรษฐกิจยูโรโซนและญี่ปุ่นคาดว่าจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปเช่นกันในปีนี้ โดยทั้ง 2 ภูมิภาคนี้มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการคาดการณ์ถึงความต่อเนื่องของนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลาง ด้านเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มจะยังเติบโตประมาณ 7.5% ในปีนี้ ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่เน้นการเติบโตที่มีเสถียรภาพ
สำหรับตลาดหุ้นไทย บลจ.ยูโอบีมีการปรับเปลี่ยนมุมมองเป็นบวก ภายหลังที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เข้าบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ปัญหาทางการเมืองคลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและการบริโภคมีแนวโน้มดีขึ้น ความพยายามของภาครัฐในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อความต่อเนื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า GDP ไทยน่าจะขยายตัวที่ 1.5% ในปีนี้ และอาจจะขยายตัวถึง 5.5% ในปี 2558 ดังนั้น ตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ดี หากพิจารณาจากอัตราการขยายตัวของกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ถูกปรับการคาดการณ์ลงมาโดยตลอดตั้งแต่ปีก่อนน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาดว่าการเติบโต ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยปีนี้โตอยู่ที่ 10-12% และ 12-15% ในปีหน้า ขณะที่มูลค่าหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก โดยมองดัชนีในช่วงครึ่งปีหลังนี้อยู่ที่ 1,450-1,550 จุด
“นอกจากตลาดหุ้นไทยแล้ว หุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะยุโรปและญี่ปุ่น ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยดัชนี MSCI Japan Small and Mid Cap Index สำหรับหุ้นบริษัทขนาดกลางและเล็กในญี่ปุ่นมีอัตรา P/E ประมาณ 15 เท่า ซึ่งต่ำกว่าดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นซึ่งมี P/E ประมาณ 17 เท่าและมีค่าเฉลี่ยในอดีตที่เคยสูงถึง 37 เท่า สำหรับดัชนี MSCI Euro คาดว่าจะมี P/E ประมาณ 15 เท่าในปีนี้ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต กำไรของบริษัทต่างๆ ในภูมิภาคยุโรปและญี่ปุ่นน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและอยู่ในภาวะฟื้นตัวจึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนได้”
นางสาวณัชชา สุนทรธาราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บลจ.ยูโอบีได้แนะนำให้นักลงทุนกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ เนื่องจากมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าในระยะกลางถึงยาว แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำจัดพอร์ตการลงทุนโดยให้น้ำหนักหุ้นไทยตามจังหวะการลงทุนในกองทุนที่มีผลตอบแทนเป้าหมาย และนำพอร์ตการลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ระดับกลางคือ ลงทุนในต่างประเทศประมาณ 40% ในหุ้นไทย 40% และตราสารหนี้ 20% โดยในครึ่งปีหลังนี้ บลจ.ยูโอบีแนะนำโอกาสการลงทุนในยุโรปที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง จากนโยบายสนับสนุนจากธนาคารกลางยุโรป อีกทั้งระดับราคาปัจจุบัน (P/E ratio) ของหุ้นยุโรปที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต