xs
xsm
sm
md
lg

เชื่อหุ้นไทยครึ่งหลังยังไปได้ ศก.การบริโภคเริ่มฟื้นตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ทหารไทยมองหุ้นไทยครึ่งปีหลังยังไปได้ต่อแต่ไม่ขึ้นแรง แต่ยังให้ผลตอบแทนได้ 5-10% ชี้กำไร บจ.ครึ่งปีหลังดีขึ้นหลังการบริโภคเพิ่มขึ้น

นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 สำหรับตราสารหนี้คาดว่าอัตราผลตอบแทนจะใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรก การลงทุนพันธบัตร หุ้นกู้จะอยู่ที่ประมาณ 3% ดังนั้นนักลงทุนที่นิยมลงทุนตราสารหนี้จึงเริ่มลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าลงทุนในประเทศ จึงเห็นนักลงทุนไทยเริ่มหันลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศมากขึ้น

สำหรับตลาดหุ้นในช่วงครึ่งปีแรกสร้างผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยอยู่ที่ประมาณ 12-15% ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดพัฒนาแล้วให้ผลตอบแทนเพียง 5-10%

“ครึ่งปีหลังหุ้นไทยก็น่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ลงทุน แต่อาจไม่มากนัก เนื่องจากดัชนีปรับตัวขึ้นมาพอสมควรแล้ว โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองหุ้นในครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวขึ้นประมาณ 5-10% ไม่น่าจะมากกว่านี้” นายไพศาลกล่าว

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนเริ่มหันไปลงทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดพัฒนาแล้ว และบางส่วนเพิ่มการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งมองว่าการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

นายไพศาลกล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่น่าจะทำให้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ต่อ คือ กำไรบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การจับจ่ายใช้สอยที่คาดว่าจะดีขึ้นจะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม และทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ดีขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองดัชนีน่าจะไปถึง 1,550-1,600 จุดในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มองอยู่ที่ 1,450-1,500 จุด สอดคล้องกับทาง บลจ.ทหารไทยที่มองว่าหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะยังปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยมองกำไรบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 10-15% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตไม่ถึง 5%

สำหรับปัจจัยทางการเมืองในประเทศถือว่าตลาดรับข่าวไปมากแล้ว ซึ่งการยึดอำนาจการปกครองของทหารในครั้งนี้เกิดผลดีมากกว่า เพราะเป็นการยึดอำนาจโดยไม่เสียเลือดเนื้อ ทำให้การเมืองสงบเร็วขึ้น บริษัทต่างๆ สามารถคาดการณ์อนาคตข้างหน้าได้ ขณะเดียวกันคนไทยก็มีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนมากขึ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น