TMBAM เปิดตัวกองทุน พร็อพเพอร์ตี้อินคัม พลัส ลงทุนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เน้นบริหารเชิงรุกคัดสรรสินทรัพย์ชั้นดีทั้งไทยและต่างประเทศ IPO ระหว่างวันที่ 16-27 มิถุนายน
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจภายในประเทศยังมีความเปราะบาง ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงจนทำให้ไม่กล้าที่จะลงทุน ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศก็อยู่ในระดับต่ำจนไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ จึงได้นำเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้ลงทุนในการช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ต และขณะเดียวกันก็คาดหวังได้ว่าจะมีรายได้รับอย่างสม่ำเสมอพอสมควร จึงออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนเปิดทหารไทยพร็อพเพอร์ตี้ อินคัม พลัส กำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 16-27 มิถุนายน ลงทุนด้วยเงินขั้นต้นเพียง 1,000 บาท
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทยพร็อพเพอร์ตี้อินคัม พลัส มีนโยบายลงทุนในหุ้นหรือตราสารในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ใช้กลยุทธ์การบริหารเชิงรุกโดยเน้นการคัดสรรสินทรัพย์คุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ พร้อมกำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสโดยขึ้นกับผลการดำเนินงานในรอบนั้นๆ
“จุดเด่นของกองทุนนี้คือผู้จัดการกองทุนมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการลงทุนตามคุณลักษณะของการเป็น Fund of Property Funds แนวทางการบริหารเชิงรุก คัดสรรหน่วยลงทุน ตราสาร หรือหุ้นตามปัจจัยพื้นฐาน โดยมีกรอบการลงทุนที่กว้างขวางสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งในและต่างประเทศ ได้เพิ่มโอกาสให้ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารจัดการเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี มีความสม่ำเสมอ และยังช่วยลดความเสี่ยงของการกระจุกตัวหรือพึ่งพาสินทรัพย์ชนิดใดชนิดหนึ่งที่มากจนเกินไป”
ขณะเดียวกัน กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะค่อนข้างยาว ชื่นชอบรายได้ ผลตอบแทนแบบกระแสเงินสดรับ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายจ่ายเงินปันผลของกองทุนที่ตั้งไว้เป็นรายไตรมาส โดยพอร์ตการลงทุนในเบื้องต้นคาดว่าจะประกอบด้วยการลงทุนในหุ้นหรือตราสาร หมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพของไทย และบางส่วนจะกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพราะมีทางเลือกการลงทุนได้หลากหลายและมีสภาพคล่องที่สูงกว่า อาทิ การลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ของประเทศสิงคโปร์
ทั้งนี้ มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามดุลพินิจผู้ จัดการกองทุน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีการป้องกันความเสี่ยงของเงินต้นเกือบทั้งหมดหรือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90
