ไทยพาณิชย์ชี้ กองทุน LTF RMF ยังสำคัญต่อตลาดและการออม มองครึ่งปีหลังตลาดหุ้นไทยยังรับข่าวดีต่อเนื่อง แต่ยังมีแรงขายทำกำไรบ้าง
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในกองทุน LTF RMF ยังมีความสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยเพราะมีผลต่อสเถียรภาพของตลาด ไม่เพียงแต่ในเรื่องของการลดหย่อนภาษีเท่านั้น ยังมีผลดีต่อเรื่องการออมของคนไทย ขณะเดียวกันยังทำให้ตลาดหุ้นไทยไม่เกิดความผันผวนมากจากการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนของต่างชาติ
ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบกับนักลงทุนของยุโรปพบว่าเมืองไทยต้องทำให้มากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาในยุโรปก็เคยทำกองทุนนี้ เพราะเนื่องจากกองทุน LTF ลงทุนในระยะยาวแล้วยังให้ผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นเป็นการสร้างนิสัยการลงทุนที่ดี และหากจะเลือกการลงทุนควรต้องมองที่พฤติกรรมการลงทุนของคนมีการเปลี่ยนไปรึยัง ขณะเดียวกันต้องมองไปที่สัดส่วนการลงทุนของตลาดหุ้นกับตราสารหนี้เปลี่ยนไปรึยัง หากลงทุนหุ้นมากขึ้นแสดงให้เห็นว่าคนรู้จักที่จะลงทุนในหุ้นมากขึ้น ปัจจุบันสัดส่วนคนลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยังไม่ถึง 20% แสดงให้เห็นว่าคนยังไม่ลงทุนในหุ้นมาก ขณะที่ต่างประเทศจะมีการลงทุนในหุ้นที่สูง
ขณะเดียวกัน หากมีฐานการลงทุนในหุ้นที่ต่ำเมื่อเงินลงทุนต่างชาติเคลื่อนย้ายออกตลาดจะส่งผลต่อตลาดหุ้น ดังนั้นการมีนักลงทุนสถาบันที่เยอะในตลาดทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ
ดังนั้น การมีกองทุนหุ้นระยะยาวอยู่ในตลาดทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น เป็นประเด็นที่ผู้มีอำนาจรัฐต้องพิจารณา ซึ่งการยกเลิกการลงทุนในกองทุน LTF RMF ในปี 2559 ยังมองว่าเร็วไป เพราะพฤติกรรมนักลงทุนยังไม่เปลี่ยนไป ซึ่งยังต้องใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนพฤติกรรม พร้อมๆ ไปกับการให้ความรู้ควบคู่กันไป
นายสมิทธ์ยังกล่าวว่า มุมมองการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ตอนนี้ตลาดรับข่าวดีขึ้นมาเยอะและน่าจะมีมาต่อเนื่องจากความชัดเจนทางการเมือง ตลาดหุ้นยังคงวิ่งต่อไปได้อีก แต่ผลประกอบการยังไม่กลับมาในช่วงไตรมาสที่ 3-4 นี้ ซึ่งหากราคาปรับตัวสูงขึ้นไปมาก อาจมีการเทขายทำกำไรได้ แต่ยังมีแรงวิ่งต่อไปได้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยมองว่ายังคงที่ เป็นไปได้อาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดอัตราดอกเบี้ยลงได้อีกครั้ง ส่วนผลตอบแทนอัตราพันธบัตรระยะยาว 5-10 ปียังอาจปรับขึ้นได้หากแผนการลงทุนภาครัฐมีความชัดเจน
