xs
xsm
sm
md
lg

อุตฯ กองทุนแตะ 3.6 ล้านล้าน ชี้กองบอนด์ยิลด์สูงมาแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
อุตฯ กองทุนครึ่งปีแรกโต 17.05% ดันยอดสินทรัพย์แตะ 3.6 ล้านล้านบาท เผยกองบอนด์ผลตอบแทนสูงได้รับความนิยมสูงสุด ส่วนกองต่างประเทศไม่น้อยหน้ายอดลงทุนครึ่งปีกว่า 60,000 ล้านบาท มองครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ต่อ ส่วน LTF ไม่คึกคัก มีเม็ดเงินไหลออกกว่า 1.7 พันล้าน ขณะที่ RMF ทำสถิติใหม่สินทรัพย์รวมโตแตะ 1.5 แสนล้าน

นายเอกชัย จงวิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า ภาพรวมกองทุนรวมครึ่งปีแรก มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของอุตสาหกรรมโตกว่า 17.05% อยู่ที่ 3.6 ล้านล้านบาท โดยหุ้นไทยให้ผลตอบแทนถึง 14.40% แม้มีความไม่แน่นนอนและผันผวน โดยกองทุนที่ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรกคือกองทุนประเภท High Yield Bond ที่ขายให้เฉพาะกลุ่มผู้ลงทุนประเภทที่มีความมั่งคั่งสูงหรือสถาบัน ซึ่งในเฉพาะครึ่งปีแรกนี้มีการเปิดกองทุนกันกว่า 100 กองทุน หรือคิดเป็นมากกว่า 25% ของจำนวนกองทุนที่ออกมาในปี 2557 นี้

ส่วนกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศแบบเจาะกลุ่มประเทศ (single country) และภูมิภาค (Region) ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเติบโตเฉลี่ยสูงสุดในกลุ่มที่เป็นการลงทุนระยะยาว โตกว่า 71% จากปลายปีที่แล้ว ส่งผลให้ยอดของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนในกลุ่มนี้สูงถึงเกือบ 6 หมื่นล้านบาท โดยมีกองทุนเปิดใหม่กว่า 15 กองทุน และมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิกว่า 22,980 ล้านบาท ซึ่งนำโดยกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นยุโรปคิดเป็นยอดประมาณ 10,633 ล้านบาท (คิดเป็น 46%) ตามมาด้วย กองทุนหุ้น ญี่ปุ่น และอเมริกา ที่ (15%) และ (14%) ตามลำดับ

ขณะที่ LTF และ RMF เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะเม็ดเงินไหลออกสุทธิของ LTF ที่ไหลออกเพียง -1,792 ล้านบาทในครึ่งแรกของปีนี้ ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งคงเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนยังคงรอให้ผลตอบแทนดีดกลับขึ้นมาสูงขึ้นอีกครั้งแล้วค่อยทำการขายคืน ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนเริ่มมีการทยอยลงทุนตั้งแต่ต้นปี ซึ่งตรงนี้ควรทำความเข้าใจกับนักลงทุนว่ายังสามารถลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้ ส่วนกองทุน RMF ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยทำสถิติมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิติดต่อกันครึ่งแรกปีนี้มีเงินไหลเข้ากว่า 1,765 ล้านบาท ทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมของ RMF นั้นสูงเกือบ 150,000ล้านบาท และนับเป็นครั้งแรกที่สัดส่วนของ RMF ที่เน้นลงทุนในหุ้นมีส่วนแบ่งสูงสุดที่ 37.42% แซงหน้าประเภทที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 35.92% ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้ลงทุนเริ่มเห็นความสำคัญของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้นเพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนให้สอดคล้องกับระดับการรับความเสี่ยงและเป้าหมายทางการลงทุนของแต่ละคน

นายพีร์ ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของการลงทุนครึ่งปีแรก การลงทุนในหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าต่างประเทศ ขณะที่สินทรัพย์ประเภทคอมมอดิตีอย่างทองคำ น้ำมัน ให้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ส่วนกองทุนที่ไปลงทุนในต่างประเทศครี่งปีแรกมีเงินกองทุนรวมไปลงทุนต่างประเทศรวมกัน 60,000 ล้านบาท ลงทุนในยุโรป 40% ญี่ปุ่น 11% สหรัฐฯ 14% ส่วนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ครึ่งปีแรกกองทุนออกมา 32 กองทุน ขนาด 14,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่ลงทุนต่างประเทศ 22 กองทุน ขนาด 7,000 ล้านบาท และลงทุนในไทย 12 กองทุน ขนาด 7,000 ล้านบาท

ด้านกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ส่วนใหญ่นั้นจะเน้นไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ รวมทั้งมีประเทศใหม่ๆ เช่น เกาหลีใต้ เยอรมนี และยุโรป เป็นต้น โดยตั้งแต่ต้นปีมีกองทุนออกสู่ตลาด 34 กองทุน แบ่งเป็นที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 22 กองทุน และลงทุนในหุ้นไทย 12 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมกว่า 14,000 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งเท่าๆ กันทั้ง 2 ประเภท ส่วนผลการดำเนินการนั้น Trigger Fund ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยสามารถลงทุนและทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายจำนวน 7 กองทุน และ 5 กองทุนสำหรับกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ


iframe src="//www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FAstvManageriBusiness&width=292&height=290&colorscheme=light&show_faces=true&border_color&stream=false&header=true" scrolling="no" frameborder="0" style="border:none; overflow:hidden; width:292px; height:290px;" allowTransparency="true">
กำลังโหลดความคิดเห็น