บลจ.เปิดขายกองบอนด์ ให้ยิลด์สูง

บลจ.เปิดขายกองบอนด์ ลงทุนต่างประเทศ ชูผลตอบแทนสูง หลบความเสี่ยงจากปัจจัยการเมือง

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 44 ( KTFF44 ) ในวันที่ 21-27 พฤษภาคม 2557 อายุ 1 ปี มูลค่า 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝาก Bank of China, เงินฝากประจำ China Construction Bank, MTN ออกโดย Agricultural Bank of China, MTN ออกโดย ICBC ในสัดส่วน 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภทหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน บริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.80% ต่อปี

ทั้งนี้ ตราสารต่างประเทศที่บริษัทลงทุน เช่น Bank of China (BOC) China Construction Bank (CCB), Agricultural Bank of China (ABCHK) เครดิตเรตติ้งอยู่ที่ A1/P1/Stable โดย Bank of China มีสถานะเป็นธนาคารภาครัฐถือหุ้นใหญ่โดยหน่วยงานเพื่อการลงทุนของรัฐบาลจีน 67.55% มีบทบาทในการสนองนโยบายรัฐ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของธนาคารในจีน, China Construction Bank มีรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 59% และมีสถานะเป็นธนาคารที่ใหญ่อันดับสองของประเทศตามขนาดของทรัพย์สิน และเป็นผู้นำในด้านการให้สินเชื่อโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้าง มีความสามารถในการแข่งขันสูง, Agricultural Bank of China มีสถานะเป็นธนาคารภาครัฐถือหุ้นใหญ่กว่า 80% โดยธนาคารไม่จำกัดธุรกิจเฉพาะภาคเกษตร แต่มีฐานธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม ทั้ง Wholesale Banking, Retail Banking และ Treasury Operation, ICBC Asia Ltd (ICBCAS) เป็นธนาคารพาณิชย์ที่เปิดดำเนินธุรกิจในฮ่องกง โดยมี ICBC ธนาคารใหญ่อันดับ 1 ของจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 100% ส่วนตราสารหนี้ในประเทศที่กองทุนลงทุนมีเครดิตเรตติ้ง BBB+ ขึ้นไป

ด้าน นายวิศิษฐ ชื่นรัตนกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส กลุ่มตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาทางการเมืองยังคงเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลระทบให้เศรษฐกิจหดตัว โดยเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2557 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ติดลบร้อยละ 0.6 สาเหตุหลักเป็นเพราะการบริโภคและการลงทุนที่ชะลอตัวลงมาก คาดการณ์ว่าในไตรมาส 2 อาจจะชะลอตัวลงไปอีก จากความเชื่อมั่นในการบริโภค และการลงทุนที่ยังไม่ฟื้นจากปัญหาการเมืองที่ยังไม่นิ่ง

ทั้งนี้ บลจ.ธนชาตเพิ่มทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพักเงินและนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก แต่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M61 (TFI6M61) อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณ 2.70% เริ่มเสนอขายรั้งแรก (IPO) 21-27 พฤษภาคม 2557 กองทุนจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก Bank of China / China Construction Bank (Asia) สัดส่วน 20.00% เงินฝาก PT Bank CIMB Niaka Tbk (Indonesia) / PT Bank International Indonesia Tbk สัดส่วน 20.00% ตราสารหนี้ที่ออกโดย ธ.ทิสโก้ / ธ.เกียรตินาคิน สัดส่วน 20.00% หุ้นกู้ระยะสั้น บจ.โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) / บจ.ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) สัดส่วน 20.00% ตั๋วแลกเงินของ บจ.ราชธานีลิสซิ่ง / ห้นกู้ระยะสั้นของ บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง สัดส่วน 20.00% โดยประมาณค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 0.1600%