บลจ.กรุงศรี บลจ.ธนชาต บลจ.กสิกรไทย และ บลจ.ฟินันซ่า ชวนนักลงทุนล็อกเงินลงทุนในเทอมฟันด์ อายุกองทุนไม่เกิน 1 เดือน รอจังหวะเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง เหตุยังต้องจับตาดูภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดโลกนั้น ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่การขยายตัวร้อยละ 3.6 จากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่ร้อยละ 3.7 หลังผลผลิตของยุโรปและญี่ปุ่นอ่อนแอลง ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดว่าการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อังกฤษ และเยอรมนีขยายตัวดีขึ้น จะเป็นแรงกระตุ้นสำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯ ปรับลดลงร้อยละ 0.02-0.10 ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงร้อยละ 0.01-0.08 และเส้นอัตราผลตอบแทนมีลักษณะแบนราบลง เนื่องจากมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติและปริมาณพันธบัตรที่ออกจำหน่ายมีน้อย
ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรีกำลังเปิดขายยกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M91 (KFFIX6M91) อายุประมาณ 6 เดือน ระหว่างวันที่ 16-22 เมษายน 2557 ซึ่งกองทุนให้ผลตอบแทนประมาณ 2.95% ต่อปี โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (Asia) (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Bank of East Asia (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Agricultural Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ระยะสั้น ออกโดยธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% เป็นต้น
ทางด้านนายโชติช่วง ธีรขจรโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและงานสนับสนุน บลจ.ธนชาต จำกัด กล่าวว่า การลงทุนในประเทศยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองเป็นหลัก ส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว รวมถึงปัจจุบันยังไม่มีรัฐบาลเข้ามาบริหาร การลงทุนภาครัฐไม่เกิด ซึ่งจะทำให้การลงทุนและการบริโภคมีแนวโน้มชะลอตัวลงไปด้วย
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อ และยังคงไม่มีความชัดเจน บลจ.ธนชาตขอเสนอกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำแต่สามารถรับโอกาสผลตอบแทนที่ดีเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุน และเป็นแหล่งพักเงินก่อนที่จะเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป โดยกองทุนที่เปิดเสนอขายได้แก่กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M56 (TFI6M56) อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณ 3.00% เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 16-22 เมษายน 2557 กองทุนจะเข้าไปลงทุนเงินฝาก Bank of China / China Construction Bank (China) สัดส่วน 22.00% เงินฝาก PT Bank CIMB Niaka Tbk (Indonesia) / PT Bank International Indonesia Tbk สัดส่วน 22.00% ตราสารหนี้ที่ออกโดย Agricultual Bank of China / Industrial and Commercial Bank of China (Asia) สัดส่วน 24% หุ้นกู้ระยะสั้น บจ.โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) / บจ.ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) สัดส่วน 22.00% ตั๋วแลกเงินของ บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง / หุ้นกู้ระยะสั้น ของ บมจ.เอเซีย เสริมกิจลีสซิ่ง สัดส่วน 10.00% โดยประมาณค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 0.1440%
ขณะที่กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 6 (TGOV6) อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณ 2.00% รับคำสั่งซื้อ-ขาย วันที่ 16-21 เมษายน 2557 กองทุนจะเข้าไปลงทุนในพันธบัตรภาครัฐ สัดส่วน 81.00% เงินฝากประจำ ธ.ออมสิน / เงินฝากประจำ ธ.ทิสโก้ สัดส่วน 19.00% โดยประมาณค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 0.2158%
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทยจึงยังคงเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุประมาณ 3เดือน-1 ปีอย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันที่ 16-21 เมษายน 2557 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีเอฟ (KFF6MBF) ประมาณการผลตอบแทนที่ 2.80% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอ็น (KEFF3MN) ประมาณการผลตอบแทนที่ 2.85% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน อาร์ (KEFF6MR) ประมาณการผลตอบแทนที่ 3.00% ต่อปี และกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เอ็น (KEFF1YN) ประมาณการผลตอบแทนที่ 3.25 % ต่อปี
ส่วนนายสุรสีห์ จงไชโย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.ฟินันซ่า กล่าวว่า เราประเมินปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 5 เดือน ได้ส่งผลอย่างเด่นชัดให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวเพิ่มขึ้น ฐานะด้านการเงินของภาคธุรกิจโดยรวมเปราะบางขึ้น โดยเฉพาะ “ภาคการผลิต-ค้าปลีก-ค้าส่ง” และจะส่งผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ช่วงไตรมาส 1-2 ของปี 57 แต่อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าความพร้อมและการปรับแผนของภาคธุรกิจไทยจะทำให้ภาพรวมของธุรกิจดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 57 พร้อมกับมุมมองทางด้านการเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดย บลจ.กำลังเสนอขายกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน1 (FAM FIPR3M1) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.85% ต่อปี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 11-22 เม.ย. 57