Good Morning News by กองทุนบัวหลวง 22/4/14
General News
• มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และฟิทช์ เรทติ้งส์ เผยว่า ธ.รัสเซียมีความพร้อมที่จะอนุมัติสินเชื่อแก่ภาคธุรกิจเป็นจำนวน 1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้เป็นเงินทุนดำเนินธุรกิจ ถ้าหากตลาดพันธบัตรรัสเซียต้องปิดทำการ หลังจากตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ ในรัสเซียไม่สามารถขายพันธบัตรยูโรได้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครน นอกจากนี้ ฟิทช์ยังได้ชี้ว่า บริษัทที่สำรวจเกือบทั้งหมด มีศักยภาพที่จะฝ่าวิกฤตชะลอตัวของตลาดสินเชื่อได้ตลอดทั้งปีนี้
• สมาคมร้านค้าสาขาของญี่ปุ่น เปิดเผย ยอดขายในซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นในปีงบการเงิน 2556 ที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้น 0.8% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 17 ปี จากการดีดตัวขึ้นของราคาอาหาร การฟื้นตัวของการบริโภค และการเร่งซื้อสินค้าก่อนจะปรับขึ้นภาษีในเดือนเม.ย. โดยในเดือนมี.ค.เพียงเดือนเดียว ยอดขายซูเปอร์มาร์เก็ตพุ่งขึ้นถึง 9.4% เนื่องจากผู้บริโภคได้เร่งซื้อสินค้าก่อนจะปรับขึ้นภาษีการขาย
• คณะกรรมการรัฐบาลญี่ปุ่น เสนอแนะว่า ควรปรับลดภาษีนิติบุคคลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในปี 2563 และจะต้องผ่อนคลายกฎระเบียบในตลาดแรงงาน เพื่อกระตุ้นให้บริษัทต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจเพิ่มในญี่ปุ่น ทั้งนี้ ภาษีนิติบุคคลในปัจจุบันของญี่ปุ่น ประกอบด้วยภาษีระดับประเทศและระดับท้องถิ่น อยู่ที่ประมาณ 35% ซึ่งสูงกว่าอัตรา 25% ในจีน 24% ในเกาหลีใต้และ 17% ในสิงคโปร์
• จีน เตรียมเปิดตัวโครงการใหญ่หลายโครงการเพื่อปฏิรูปแผนพลังงาน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งใหม่บนชายฝั่งตะวันออก ด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยที่ทันสมัย และโครงการอื่นๆ เช่น การก่อสร้างสถานีไฟฟ้าพลังน้ำ พลังลมและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งสายส่งไฟฟ้าแรงดันสูง นอกจากนี้ จีนจะเปิดกว้างสำหรับการแสวงหาผลประโยชน์ด้านพลังงาน เพือส่งเสริมให้นักลงทุนหลากหลายประเภทร่วมลงทุนในภาคอุตสาหกรรมพลังงานมากขึ้น
• ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของไทย (MPI) เดือน ก.พ. 57 อยู่ที่ระดับ 166.5 จุด ลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการผลิตลดลงในหลายอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ยานยนต์ Hard Disk Drive ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. ขยายตัว 6.42% และเมื่อไม่รวมทองคำแท่งจะขยายตัว 3.64%
• ครม.เศรษฐกิจ ปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 57 จากระดับ 4-5% เหลือ 3-4% เนื่องจากผลของการเมืองในประเทศทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ภาคส่งออกฟื้นตัวช้า ประกอบกับรัฐบาลอยู่ในช่วงรักษาการส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ
• ธ.สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยมองว่าทั้งปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ถึง 3.5% ซึ่งสูงกว่าที่หลายฝ่ายได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 3.4% 2. เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงครึ่งปีหลังจะส่งผลดีต่อการส่งออกไทย และ 3. ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น เช่น ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม จำนวนนักท่องเที่ยว และคาดว่าเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติจะเริ่มกลับมาหลังจากที่มีการตั้งบอร์ดBOI นอกจากนี้ คาดว่า กนง. จะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% ไปตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้
• ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB คาดว่า ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่อาจไม่ได้เห็นจนกระทั่งไตรมาส 4/57 ทำให้แนวโน้มดอกเบี้ยยังกลับมาเป็นขาขึ้นไม่ได้ และกนง.จะผ่อนคลายนโยบายการเงินไปอีกระยะหนึ่งหลังจากการเมืองมีสัญญาณคลี่คลาย และการประชุมวันที่ 23 เม.ย.นี้ กนง.ไม่น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เพราะปัญหาของเศรษฐกิจไทยไม่ใช่มาจากต้นทุน แต่มาจากรายได้ของผู้ประกอบการที่ลดลง เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ
Equity Market
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน -576.71 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 953.93 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ 1,093.28 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป -1,470.49ล้านบาท
• SET Index ปิดที่ 1,413.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.89 จุด (0.28%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 28,758 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยค่อยๆ ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น และนักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา โดยช่วงนี้เป็นช่วงที่รอความคืบหน้าของปัจจัยการเมือง ทั้งการหารือการเลือกตั้งระหว่าง กกต.และพรรคการเมือง และการพิจารณาขอเลื่อนการชี้แจงของรักษาการนายกฯ ทั้งนี้ มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารหลายตัวหลังจากผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1/57 ดีกว่าที่ตลาดคาด
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.04% ถึง 0.01% โดยปรับตัวลดลงทุกรุ่นที่อายุคงเหลือตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป มูลค่าการซื้อขาย 111,216 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธปท. รุ่นอายุ 3 เดือนและ 6 เดือน มูลค่ารวม 56,000 ล้านบาท
General News
• มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และฟิทช์ เรทติ้งส์ เผยว่า ธ.รัสเซียมีความพร้อมที่จะอนุมัติสินเชื่อแก่ภาคธุรกิจเป็นจำนวน 1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้เป็นเงินทุนดำเนินธุรกิจ ถ้าหากตลาดพันธบัตรรัสเซียต้องปิดทำการ หลังจากตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ ในรัสเซียไม่สามารถขายพันธบัตรยูโรได้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครน นอกจากนี้ ฟิทช์ยังได้ชี้ว่า บริษัทที่สำรวจเกือบทั้งหมด มีศักยภาพที่จะฝ่าวิกฤตชะลอตัวของตลาดสินเชื่อได้ตลอดทั้งปีนี้
• สมาคมร้านค้าสาขาของญี่ปุ่น เปิดเผย ยอดขายในซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นในปีงบการเงิน 2556 ที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้น 0.8% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 17 ปี จากการดีดตัวขึ้นของราคาอาหาร การฟื้นตัวของการบริโภค และการเร่งซื้อสินค้าก่อนจะปรับขึ้นภาษีในเดือนเม.ย. โดยในเดือนมี.ค.เพียงเดือนเดียว ยอดขายซูเปอร์มาร์เก็ตพุ่งขึ้นถึง 9.4% เนื่องจากผู้บริโภคได้เร่งซื้อสินค้าก่อนจะปรับขึ้นภาษีการขาย
• คณะกรรมการรัฐบาลญี่ปุ่น เสนอแนะว่า ควรปรับลดภาษีนิติบุคคลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในปี 2563 และจะต้องผ่อนคลายกฎระเบียบในตลาดแรงงาน เพื่อกระตุ้นให้บริษัทต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจเพิ่มในญี่ปุ่น ทั้งนี้ ภาษีนิติบุคคลในปัจจุบันของญี่ปุ่น ประกอบด้วยภาษีระดับประเทศและระดับท้องถิ่น อยู่ที่ประมาณ 35% ซึ่งสูงกว่าอัตรา 25% ในจีน 24% ในเกาหลีใต้และ 17% ในสิงคโปร์
• จีน เตรียมเปิดตัวโครงการใหญ่หลายโครงการเพื่อปฏิรูปแผนพลังงาน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งใหม่บนชายฝั่งตะวันออก ด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยที่ทันสมัย และโครงการอื่นๆ เช่น การก่อสร้างสถานีไฟฟ้าพลังน้ำ พลังลมและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งสายส่งไฟฟ้าแรงดันสูง นอกจากนี้ จีนจะเปิดกว้างสำหรับการแสวงหาผลประโยชน์ด้านพลังงาน เพือส่งเสริมให้นักลงทุนหลากหลายประเภทร่วมลงทุนในภาคอุตสาหกรรมพลังงานมากขึ้น
• ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของไทย (MPI) เดือน ก.พ. 57 อยู่ที่ระดับ 166.5 จุด ลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการผลิตลดลงในหลายอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ยานยนต์ Hard Disk Drive ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. ขยายตัว 6.42% และเมื่อไม่รวมทองคำแท่งจะขยายตัว 3.64%
• ครม.เศรษฐกิจ ปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 57 จากระดับ 4-5% เหลือ 3-4% เนื่องจากผลของการเมืองในประเทศทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ภาคส่งออกฟื้นตัวช้า ประกอบกับรัฐบาลอยู่ในช่วงรักษาการส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ
• ธ.สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยมองว่าทั้งปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ถึง 3.5% ซึ่งสูงกว่าที่หลายฝ่ายได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 3.4% 2. เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงครึ่งปีหลังจะส่งผลดีต่อการส่งออกไทย และ 3. ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น เช่น ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม จำนวนนักท่องเที่ยว และคาดว่าเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติจะเริ่มกลับมาหลังจากที่มีการตั้งบอร์ดBOI นอกจากนี้ คาดว่า กนง. จะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% ไปตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้
• ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB คาดว่า ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่อาจไม่ได้เห็นจนกระทั่งไตรมาส 4/57 ทำให้แนวโน้มดอกเบี้ยยังกลับมาเป็นขาขึ้นไม่ได้ และกนง.จะผ่อนคลายนโยบายการเงินไปอีกระยะหนึ่งหลังจากการเมืองมีสัญญาณคลี่คลาย และการประชุมวันที่ 23 เม.ย.นี้ กนง.ไม่น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เพราะปัญหาของเศรษฐกิจไทยไม่ใช่มาจากต้นทุน แต่มาจากรายได้ของผู้ประกอบการที่ลดลง เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ
Equity Market
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน -576.71 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 953.93 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ 1,093.28 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป -1,470.49ล้านบาท
• SET Index ปิดที่ 1,413.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.89 จุด (0.28%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 28,758 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยค่อยๆ ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น และนักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา โดยช่วงนี้เป็นช่วงที่รอความคืบหน้าของปัจจัยการเมือง ทั้งการหารือการเลือกตั้งระหว่าง กกต.และพรรคการเมือง และการพิจารณาขอเลื่อนการชี้แจงของรักษาการนายกฯ ทั้งนี้ มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารหลายตัวหลังจากผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1/57 ดีกว่าที่ตลาดคาด
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.04% ถึง 0.01% โดยปรับตัวลดลงทุกรุ่นที่อายุคงเหลือตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป มูลค่าการซื้อขาย 111,216 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธปท. รุ่นอายุ 3 เดือนและ 6 เดือน มูลค่ารวม 56,000 ล้านบาท