xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.ธนชาตมองยุโรปมาแรง เชื่อลงทุนแบบรายตัวมีอัปไซด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ธนชาตประเมินเศรษฐกิจยุโรปมาแรงเทียบคล้ายกับการฟื้นตัวของสหรัฐฯ เมื่อ 1-2 ปีก่อน เชื่อเลือกลงทุนหุ้นแบบรายตัวรออัปไซด์ พร้อมประเมินหุ้นไทยยังน่าลงทุนอยู่ แนะเน้นเลือกเป็นหลายตัวและอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้จะพบว่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมีความหวังมากขึ้นหลังจากที่ถือเงินสดมาระยะหนึ่งก็กลับเข้ามาลงทุนในหุ้นไทย ขณะเดียวกันในมุมของสถาบันก็จะเน้นมองไปที่ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเป็นส่วนใหญ่

สำหรับกองทุนต่างประเทศนั้น ทาง บลจ.ก็ยังให้ความสำคัญอยู่เนื่องจากเรามองเห็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุน แม้ว่าขนาดของกองทุนจะไม่ใหญ่มากนักซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์การลงทุนในประเทศมากกว่า แต่ก็ยังมีนักลงทุนส่วนหนึ่งที่มีความรู้ความเข้าใจและพร้อมที่จะไปลงทุนต่างประเทศอยู่ โดยเร็วๆ นี้ บลจ.ธนชาตเตรียมจะออกกองทุน FIF ที่ไปลงทุนในยุโรป ซึ่งเรามีมุมมองการลงทุนในหุ้นยุโรปที่ควรจะเน้นลงทุนแบบ Active Fund มากกว่า Index Fund

ทางด้านนายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า ปัจจัยด้านการเมืองยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก โดยเราประเมินว่าหากปัญหายังยืดเยื้อจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต ส่วนภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้ที่มีแรงซื้อกลับเข้ามาเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เข้าใจปัญหาการเมืองไทยที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เงินของนักลงทุนต่างชาติที่เทขายไปก่อนหน้านี้ก็เริ่มที่จะขายหุ้นไทยน้อยลงและหันกลับเข้ามาทยอยลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ การลงทุนในหุ้นไทยนั้นโดยรวมก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดีแต่ก็ยังมีปัจจัยลบผลักดันทำให้เกิดความผันผวนอยู่บ้าง โดยภาพรวมทั้งปีเรามองกรอบหุ้นไทยอยู่ที่ 1,400 จุด แต่ถ้าหากมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาก็คงต้องมีการปรับกรอบดัชนีกันใหม่อีกครั้ง โดยกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นนั้นคงจะต้องให้น้ำหนักการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภาครัฐ หรือหุ้นที่ส่งออกเด่นๆ รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารโทรคมนาคม ในส่วนการบริหารกองทุนหุ้นของ บลจ.ธนชาตในช่วงนี้จะเน้นเรื่องการทำ company visit มากขึ้นเพื่อคัดเลือกและดูความแข็งแกร่งของบริษัทนั้นๆ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน

นายตระกูลจิตรกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปนั้นเราประเมินว่ายุโรปกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมาธุรกิจหลายแห่งในยุโรปเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ การหาแหล่งลงทุนใหม่ๆ รวมถึงการบริโภคและการส่งออกก็ปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรามองภาพของยุโรปตอนนี้เหมือนกับสหรัฐฯ เมื่อ 2-3 ปีก่อนที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวและยังมี Upside อยู่มาก

ในส่วนของประเทศจีนนั้น แม้จะมีความเสี่ยงในเรื่องของหนี้สาธารณะในประเทศ แต่เชื่อว่าในระยะยาวก็ยังคงมีความน่าสนใจอยู่ โดยเฉพาะการลงทุนที่เน้นแบบ Active Fund ที่มีการคัดเลือกหุ้นเป็นรายตัว และไม่เน้นการลงทุนแบบ Index Fund ที่ล้อไปกับดัชนีหุ้นฯ ยกตัวอย่างเช่นการที่ประเทศจีนให้ความสำคัญต่อการจัดการปัญหามลภาวะที่เกิดขึ้นภายในประเทศนั้นก็ถือเป็นจังหวะที่ดีหากมีบริษัทจดทะเบียนได้รับอานิสงส์จากการแก้ปัญหามลภาวะ ทั้งนี้ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนนั้นเติบโตด้วยสินเชื่อ เมื่อเกิดปัญหาในเรื่องการผิดชำระหนี้ก็คงต้องติดตามสถานการณ์ว่าทางรัฐบาลจีนจะมีการแก้ปัญหาอย่างไร

“เราให้น้ำหนักการลงทุนไปยังตลาดพัฒนาแล้วมากกว่าตลาดเกิดใหม่ ทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ส่วนการลงทุนในหุ้นไทยก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ เพียงแต่ตอนนี้คงต้องรอจังหวะ Upside ของดัชนี” นายตระกูลจิตรกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น