xs
xsm
sm
md
lg

ระยะสั้นหุ้นไทยยังผันผวน ธนชาตแนะจับตาปัญหาการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ธนชาตประเมินระยะสั้นหุ้นไทยยังผันผวนจากปัจจัยลบภายในประเทศ โดยเฉพาะการเมืองไทยที่ยังไม่แน่นอนว่าจะยุติอย่างไร พร้อมมองระยะกลางดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบกว้างรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ล่าสุดเตรียมปันผลกองทุน “ธนชาติหุ้นระยะยาวปันผล” อัตราละ 0.50 บาท ในวันที่ 30 มกราคมนี้

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด กล่าวว่า  ทิศทางตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังไม่สดใส และอ่อนไหวไปตามประเด็นการเมืองในประเทศ ซึ่งยังไม่แน่นอนว่าจะยุติลงอย่างไร และมีความเป็นไปได้ว่าจะตึงเครียดมากขึ้น รวมทั้งยืดเยื้อออกไป ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบที่กดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและผลกำไรของบริษัทในตลาดมากขึ้น
    
ส่วนระยะกลาง บลจ.ธนชาตเชื่อว่าหลังปัจจัยลบต่างๆ เริ่มคลี่คลาย ดัชนีฯ น่าจะเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบกว้างขึ้นกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเสถียรภาพทางการเมืองในระยะต่อไป รวมทั้งการกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วย
    
สำหรับกองทุนเปิดธนชาติหุ้นระยะยาวปันผล (LTFD) จ่ายปันผลในรอบปีบัญชี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ในอัตราหน่วยละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 21 มกราคม 2557 เวลา 08.30 น. โดยกำหนดให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 30 มกราคม 2557
     
ทั้งนี้ สัดส่วนการลงทุน ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2556 กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 15.63% กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 14.78% กลุ่มธนาคาร 10.45% กลุ่มพาณิชย์ 9.63% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง 5.18%   ส่วนตราสารหนี้ลงทุนในพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 18.80%
    
โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2556 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนที่ -9.16% เมื่อเทียบดัชนีมาตรฐาน -8.38% ย้อนหลัง 6 เดือน -10.48% เทียบดัชนีมาตรฐาน -10.55% ย้อนหลัง 12 เดือน 4.87% เทียบดัชนีมาตรฐาน -6.70% ย้อนหลัง 3 ปี 42.98% เทียบดัชนีมาตรฐาน 25.75% และย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 182.99% เทียบดัชนีมาตรฐาน 99.05%
    
สำหรับกองทุนเปิดธนชาติหุ้นระยะยาวปันผล (LTFD) มีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะมุ่งเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.


กำลังโหลดความคิดเห็น