บลจ.มองราคาน้ำมันปีนี้ไม่ขยับขึ้นแรง เศรษฐกิจโลกเติบโตแบบมีเสถียรภาพ รวมทั้งแรงเก็งกำไรลดลง แต่ยังให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น หลังราคาทรุดในปีที่ผ่านมา
นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี กล่าวถึงทิศทางของราคาน้ำมันว่า ยอดการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แต่ราคาน้ำมันยังไม่น่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นมาก คาดว่าระดับราคายังคงวิ่งอยู่ในระดับปัจจุบัน ไม่มีความผันผวนแต่อย่างใด เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพและมีความชัดเจน เงินดอลลาร์สหรัฐจึงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ขณะที่เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งเรื่องความขัดแย้งด้านสงครามก็ไม่มีแล้วในช่วงนี้ ดังนั้นราคาน้ำมันจึงไม่ขึ้นไปอยู่ในระดับสูง และไม่น่าจะมีความผันผวน
ทั้งนี้ มองว่าหุ้นกลุ่มพลังงานเริ่มได้รับความน่าสนใจ ทาง บลจ.ยูโอบีให้น้ำหนักลงทุนในกลุ่มพลังงานมากขึ้น เช่นกลุ่มโรงกลั่นที่มีความสามารถในการทำกำไรจากส่วนต่างของค่าการกลั่นกับต้นทุน รวมถึงกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่เริ่มกลับขึ้นมา รวมทั้งราคาหุ้นที่ถูกลงในตอนนี้จึงมีนักลงทุนเริ่มกลับมามองหุ้นกลุ่มพลังงานบ้าง
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยุโรปเริ่มดีขึ้น น่าจะส่งผลให้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นระดับหนึ่งประมาณ 5% มองว่ายังไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมาก เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ได้มีการเติบโตในระดับสูงมากนัก ขณะเดียวกัน การใช้พลังงานจำพวกก๊าซก็เพิ่มขึ้น จึงเป็นตัวที่กดให้ราคาน้ำมันยังไม่เพิ่มขึ้นมากด้วย ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าการเก็งกำไรในกลุ่มน้ำมันเริ่มลดลงเพราะรัฐบาลประเทศต่างๆ เริ่มเข้ามาควบคุมมากขึ้น ทำให้ส่วนต่างของระดับราคาและความผันผวนไม่เกิดขึ้นมากนัก
“ราคาน้ำมันน่าปรับเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับหนึ่งประมาณ 5-10% ต่อปี ไม่เพิ่มขึ้นมากเหมือนในช่วงก่อนหน้านี้ที่มีแรงเก็งกำไร และรัฐบาลก็เข้ามาควบคุมเมื่อน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นมากเพราะจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ”
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ จำกัด มองว่า ในปี 2557 นี้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น น่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นมากกว่าในปีที่ผ่านมา ในช่วงสั้นราคาน้ำมันอาจจะลดลงมาบ้างจากแรงขายทำกำไรเพราะความกังวลของเศรษฐกิจ แต่ในปีนี้มองว่าระดับราคาน้ำมัน WTI น่าจะอยู่ที่ 90-105 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลตลอดทั้งปี แต่น่าจะมีการปรับขึ้นปรับลงบ้างตามปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบ แต่อย่างไรก็ตามราคาไม่น่าจะวิ่งเพิ่มขึ้นมาก
“ครึ่งปีหลังเงินเฟ้ออาจตามมาได้เพราะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มพลังงานมากขึ้นเพราะราคาที่ปรับตัวลงมาถือว่าอยู่ในระดับที่ถูก แต่ควรลงทุนเป็นรอบการปรับตัว”
นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ราคาน้ำมันในปีนี้คาดว่ายังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดิมประมาณ 90-100 เหรียญ แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป จะเริ่มดีขึ้น แต่ปริมาณน้ำมันไม่ได้ลดลงไป โดยจะเห็นได้ว่าสหรัฐฯ เองก็มีการผลิตน้ำมันและพลังงานออกมาใช้มากขึ้นเพื่อไม่ให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี กล่าวถึงทิศทางของราคาน้ำมันว่า ยอดการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แต่ราคาน้ำมันยังไม่น่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นมาก คาดว่าระดับราคายังคงวิ่งอยู่ในระดับปัจจุบัน ไม่มีความผันผวนแต่อย่างใด เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพและมีความชัดเจน เงินดอลลาร์สหรัฐจึงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ขณะที่เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งเรื่องความขัดแย้งด้านสงครามก็ไม่มีแล้วในช่วงนี้ ดังนั้นราคาน้ำมันจึงไม่ขึ้นไปอยู่ในระดับสูง และไม่น่าจะมีความผันผวน
ทั้งนี้ มองว่าหุ้นกลุ่มพลังงานเริ่มได้รับความน่าสนใจ ทาง บลจ.ยูโอบีให้น้ำหนักลงทุนในกลุ่มพลังงานมากขึ้น เช่นกลุ่มโรงกลั่นที่มีความสามารถในการทำกำไรจากส่วนต่างของค่าการกลั่นกับต้นทุน รวมถึงกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่เริ่มกลับขึ้นมา รวมทั้งราคาหุ้นที่ถูกลงในตอนนี้จึงมีนักลงทุนเริ่มกลับมามองหุ้นกลุ่มพลังงานบ้าง
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยุโรปเริ่มดีขึ้น น่าจะส่งผลให้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นระดับหนึ่งประมาณ 5% มองว่ายังไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมาก เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ได้มีการเติบโตในระดับสูงมากนัก ขณะเดียวกัน การใช้พลังงานจำพวกก๊าซก็เพิ่มขึ้น จึงเป็นตัวที่กดให้ราคาน้ำมันยังไม่เพิ่มขึ้นมากด้วย ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าการเก็งกำไรในกลุ่มน้ำมันเริ่มลดลงเพราะรัฐบาลประเทศต่างๆ เริ่มเข้ามาควบคุมมากขึ้น ทำให้ส่วนต่างของระดับราคาและความผันผวนไม่เกิดขึ้นมากนัก
“ราคาน้ำมันน่าปรับเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับหนึ่งประมาณ 5-10% ต่อปี ไม่เพิ่มขึ้นมากเหมือนในช่วงก่อนหน้านี้ที่มีแรงเก็งกำไร และรัฐบาลก็เข้ามาควบคุมเมื่อน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นมากเพราะจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ”
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ จำกัด มองว่า ในปี 2557 นี้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น น่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นมากกว่าในปีที่ผ่านมา ในช่วงสั้นราคาน้ำมันอาจจะลดลงมาบ้างจากแรงขายทำกำไรเพราะความกังวลของเศรษฐกิจ แต่ในปีนี้มองว่าระดับราคาน้ำมัน WTI น่าจะอยู่ที่ 90-105 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลตลอดทั้งปี แต่น่าจะมีการปรับขึ้นปรับลงบ้างตามปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบ แต่อย่างไรก็ตามราคาไม่น่าจะวิ่งเพิ่มขึ้นมาก
“ครึ่งปีหลังเงินเฟ้ออาจตามมาได้เพราะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มพลังงานมากขึ้นเพราะราคาที่ปรับตัวลงมาถือว่าอยู่ในระดับที่ถูก แต่ควรลงทุนเป็นรอบการปรับตัว”
นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ราคาน้ำมันในปีนี้คาดว่ายังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดิมประมาณ 90-100 เหรียญ แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป จะเริ่มดีขึ้น แต่ปริมาณน้ำมันไม่ได้ลดลงไป โดยจะเห็นได้ว่าสหรัฐฯ เองก็มีการผลิตน้ำมันและพลังงานออกมาใช้มากขึ้นเพื่อไม่ให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
